Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 12 มิถุนายน ฉีดวัคซีนแล้ว 5,975,070 โดส และทั่วโลกแล้ว 2,304 ล้านโดส ใน 199 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 63.315 ล้านโดส


➡️(12 มิถุนายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 2,304 ล้านโดส ใน 199 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 34.8 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 307 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 142 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 63.315 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (42.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 31.603 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 5,975

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 2,304 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-12 มิ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 5,975,070 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 289,334 โดส/วัน

    วัคซีนจัดสรร 7,015,580 โดส ประกอบด้วย
        วัคซีน Sinovac 5,125,210 โดส
        วัคซีน AstraZeneca 1,890,370 โดส

     ฉีดวัคซีนแล้ว 5,975,070 โดส
        - เข็มที่ 1 4,362,685 โดส (6.6%)
        - เข็มที่ 2 1,612,385 โดส (2.4%)



2. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน

     - 90.5% ไม่มีผลข้างเคียง
     - 9.5% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
     - ปวดกล้ามเนื้อ 2.28%
     - ปวดศีรษะ 1.69%
     - ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 1.22%
     - เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 1.11%
     - ไข้ 0.74%
     - คลื่นไส้ 0.51%
     - ท้องเสีย 0.33%
     - ผื่น 0.28%
     - ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.22%
     - อาเจียน 0.14%
     - อื่น ๆ 0.98%

จำนวนผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรง 18 คน



3. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 63,315,704 โดส ได้แก่

     1. อินโดนีเซีย จำนวน 31,603,325 โดส (7.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
     2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 6,470,776 โดส (4.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
     3. ไทย จำนวน 5,975,070 โดส (6.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
     4. กัมพูชา จำนวน 5,223,958 โดส (16.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
     5. สิงคโปร์ จำนวน 4,392,067 โดส (42.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
     6. มาเลเซีย จำนวน 4,102,936 โดส (8.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     7. พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     8. เวียดนาม จำนวน 1,411,548 โดส (1.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     9. ลาว จำนวน 1,079,903 โดส (9.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
     10. บรูไน จำนวน 61,225 โดส (11.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ



4. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 58.7%
     2. อเมริกาเหนือ 16.73%
     3. ยุโรป 16.57%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.01%
     5. แอฟริกา 1.7%
     6. โอเชียเนีย 0.29%



5. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

     1. จีน จำนวน 845.30 ล้านโดส (30.2% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
     2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 306.51 ล้านโดส (47.8%)
     3. สหภาพยุโรป จำนวน 292.02 ล้านโดส (32.9%)
     4. อินเดีย จำนวน 249.32ล้านโดส (9.1%)



6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

     1. มัลดีฟส์ (65.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
     2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (63.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     3. บาห์เรน (63%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     4. อิสราเอล (58.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     5. ชิลี (52.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     6. สหราชอาณาจักร (52.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     7. กาตาร์ (49.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
     8. ฮังการี (48.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     9. สหรัฐอเมริกา (47.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnso
     10. อุรุกวัย (45.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer และ Sinovac)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น