อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 8 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 105,953,235 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,398 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 807.6 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120.5%)

➡️(8 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,398 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 35.5 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 515 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 207 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 810.5 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 285.3 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 8 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 105,953,235 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.60%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,361 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 8 มกราคม 2565
    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 105,419,287 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 51,463,230 โดส (77.8% ของประชากร)
        - เข็มสอง 46,704,515 โดส (70.6% ของประชากร)
        - เข็มสาม 7,785,490 โดส (11.8% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-8 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 105,953,235 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 533,948 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 215,581 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 22,826,741 โดส
        - เข็มที่ 2 3,576,299 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 13,486,365 โดส
        - เข็มที่ 2 27,933,464 โดส
        - เข็มที่ 3 3,012,911 โดส
    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 7,463,113 โดส
        - เข็มที่ 2 7,1123,825 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน Pfizer
        - เข็มที่ 1 7,076,441 โดส
        - เข็มที่ 2 7,523,027 โดส
        - เข็มที่ 3 3,484,194 โดส
    วัคซีน Moderna
        - เข็มที่ 1 610,570 โดส
        - เข็มที่ 2 547,900 โดส
        - เข็มที่ 3 1,288,385 โดส

4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.8% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 99.4%
     - อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 76.2% เข็มที่3 25.4%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 77.9% เข็มที่2 72.5% เข็มที่3 11.4%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.5% เข็มที่3 61.4% เข็มที่3 10.7%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 75.6% เข็มที่ 68.5% เข็มที่3 8.2%
     - นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 74.8% เข็มที่2 71.5% เข็มที่3 0%
     รวม เข็มที่1 71.4% เข็มที่2 64.8% เข็มที่3 10.8%

5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
     1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120.5% เข็มที่2 111.1%
     2. ชลบุรี เข็มที่1 93.6% เข็มที่2 88.4%
     3. สมุทรสาคร เข็มที่1 94.8% เข็มที่2 85.4%
     4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.7% เข็มที่2 85.1%
     5. เชียงใหม่ เข็มที่1 89.9% เข็มที่2 84.7%
     6. ปทุมธานี เข็มที่1 84.2% เข็มที่2 78.8%
     7. ระนอง เข็มที่1 82.7% เข็มที่2 76.5%
     8. ระยอง เข็มที่1 78.2% เข็มที่2 74.1%
     9. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 87.5% เข็มที่2 73.8%
     10. พังงา เข็มที่1 74.7% เข็มที่2 72.9%
    10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
     1. หนองบัวลำภู เข็มที่1 51.7% เข็มที่2 40.9%
     2. บึงกาฬ เข็มที่1 54.1% เข็มที่2 42.4%
     3. ปัตตานี เข็มที่1 53.5% เข็มที่2 42.8%
     4. นราธิวาส เข็มที่1 53.4% เข็มที่2 43%
     5. สกลนคร เข็มที่1 54.9% เข็มที่2 44.8%
     6. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 64.2% เข็มที่2 45.3%
     7. นครพนม เข็มที่1 55.3% เข็มที่2 45.7%
     8. สุรินทร์ เข็มที่1 51.9% เข็มที่2 46.6%
     9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 54.3% เข็มที่2 46.8%
     10. ศรีสะเกษ เข็มที่1 54.2% เข็มที่2 47%

6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 810,560,286 โดส ได้แก่
     1. อินโดนีเซีย จำนวน 25,390,205 (61.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
     2. เวียดนาม จำนวน 157,740,557 โดส (80.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
     3. ฟิลิปปินส์ 112,745,559 โดส (52%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
     4. ไทย จำนวน 105,953,235 โดส (77.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     5. มาเลเซีย จำนวน 59,033,667 โดส (79.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     6. พม่า จำนวน 36,885,868 โดส (38.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     7. กัมพูชา จำนวน 31,817,464 โดส (84.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
     8. สิงคโปร์ จำนวน 11,834,312 โดส (88%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
     9. ลาว จำนวน 8,261,018 โดส (62.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 898,401 โดส (94.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.67%
     2. ยุโรป 10.39%
     3. อเมริกาเหนือ 8.89%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%
     5. แอฟริกา 3.45%
     6. โอเชียเนีย 0.58%

8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
     1. จีน จำนวน 2,879.99 ล้านโดส (205.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
     2. อินเดีย จำนวน 1,506.51 ล้านโดส (110.2%)
     3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 515.16 ล้านโดส (155.2%)
     4. บราซิล จำนวน 333.83 ล้านโดส (158.8%)
     5. อินโดนีเซีย จำนวน 285.39 ล้านโดส (103.4%)

9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
     1. คิวบา (272.9%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
     2. ชิลี (234.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
     3. เดนมาร์ก (225.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
     4. บาห์เรน (219.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     5. มัลดีฟส์ (212.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     6. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (212.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     7. เกาหลีใต้ (207.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
     8. จีน (205.7%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
     9. บรูไน (203.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
     10. สหราชอาณาจักร (201.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)