อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 22 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 111,882,595 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,879 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 869.5 ล้านโดส
➡️(22 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,879 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 36 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 533 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 210 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 869.5 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 304.4ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 22 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 111,882,595 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.69%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,879 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 22 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 111,882,595 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- เข็มแรก 52,016,062 โดส (78.6% ของประชากร)
- เข็มสอง 48,059,715 โดส (72.6% ของประชากร)
- เข็มสาม 11,806,818 โดส (17.8% ของประชากร)
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 22 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 111,882,595 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- เข็มแรก 52,016,062 โดส (78.6% ของประชากร)
- เข็มสอง 48,059,715 โดส (72.6% ของประชากร)
- เข็มสาม 11,806,818 โดส (17.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-22 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 111,882,595 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 559,569 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 423,737 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,852,550 โดส
- เข็มที่ 2 3,579,024 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,624,940 โดส
- เข็มที่ 2 28,119,048 โดส
- เข็มที่ 3 3,611,493 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,490,271 โดส
- เข็มที่ 2 7,169,305 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 7,392,292 โดส
- เข็มที่ 2 8,478,497 โดส
- เข็มที่ 3 6,409,930 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 656,009 โดส
- เข็มที่ 2 713,841 โดส
- เข็มที่ 3 1,785,395 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.3% เข็มที่2 112% เข็มที่3 96.8%
- อสม เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 77.7% เข็มที่3 33.7%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 105.4% เข็มที่2 99.6% เข็มที่3 25.7%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 88% เข็มที่3 80.4% เข็มที่3 20.3%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.6% เข็มที่2 60.7% เข็มที่3 13.8%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 71.5% เข็มที่2 68.9% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 74.8% เข็มที่2 69.1% เข็มที่3 17%
5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 121.1% เข็มที่2 112.3%
2. ภูเก็ต เข็มที่1 88% เข็มที่2 85.5%
3. ปทุมธานี เข็มที่1 84.7% เข็มที่2 79.7%
4. ระนอง เข็มที่1 83.7% เข็มที่2 79.7%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 84.2% เข็มที่2 73.5%
6. ระยอง เข็มที่1 82.2% เข็มที่2 78.3%
7. นนทบุรี เข็มที่1 80.8% เข็มที่2 77.4%
8. ชลบุรี เข็มที่1 81.3% เข็มที่2 77.3%
9.พังงา เข็มที่1 77.7% เข็มที่2 75.6%
10. นครปฐม เข็มที่1 75.4% เข็มที่2 74.6%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 55.3% เข็มที่2 40.5%
2. นราธิวาส เข็มที่1 54.9% เข็มที่2 44.2%
3. ปัตตานี เข็มที่1 55.8% เข็มที่2 44.8%
4. ตาก เข็มที่1 55.8% เข็มที่2 46.2%
5. ยะลา เข็มที่1 62.2% เข็มที่2 51.9%
6. กาญจนบุรี เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 52.7%
7. บึงกาฬ เข็มที่1 62.4% เข็มที่2 52.9%
8. ลพบุรี เข็มที่1 57.5% เข็มที่2 53.3%
9. หนองบัวลำภู เข็มที่1 61.7% เข็มที่2 53.8%
10. สกลนคร เข็มที่1 63.7% เข็มที่2 54.8%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 869,599,894 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 304,496,935 โดส (65.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 173,708,365 โดส (80.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 122,889,494 โดส (53.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 111,882,595 โดส (78.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 61,946,138 โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 38,483,555 โดส (39.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 33,208,306 โดส (84.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,444,673 โดส (90%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,593,662 โดส (63.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 946,170 โดส (94.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.74%
2. ยุโรป 10.38%
3. อเมริกาเหนือ 8.83%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%
5. แอฟริกา 3.45%
6. โอเชียเนีย 0.59%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,956.22 ล้านโดส (209% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,6344.22 ล้านโดส (119.3%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 532.85 ล้านโดส (158.9%)
4. บราซิล จำนวน 350.63 ล้านโดส (165.6%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 304.5 ล้านโดส (110.4%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (292.5%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (250.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (236.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เดนมาร์ก (232.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
5. บาห์เรน (225.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. เกาหลีใต้ (217.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
7. บรูไน (214.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
8. มัลดีฟส์ (214.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
9. สิงคโปร์ (211.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
10. จีน (209%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ไม่มีความคิดเห็น