อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 2 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 104,472,167 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,190 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง
ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 787.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120%)
➡️(2 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,190 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 39.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 508 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 206 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 787.9 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 279.8 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 2 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 104,472,167 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.60%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,190 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 2 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 104,472,167 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- เข็มแรก 51,301,610 โดส (77.5% ของประชากร)
- เข็มสอง 46,155,460 โดส (69.7% ของประชากร)
- เข็มสาม 7,015,097 โดส (10.6% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-1 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 104,472,167 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 27,998 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 272,977 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,820,308 โดส
- เข็มที่ 2 3,575,565 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,452,105 โดส
- เข็มที่ 2 27,874,536 โดส
- เข็มที่ 3 2,903,186 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 6,971,073 โดส
- เข็มที่ 2 7,125,077 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 6,971,073 โดส
- เข็มที่ 2 7,125,077 โดส
- เข็มที่ 3 2,907,841 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 602,313 โดส
- เข็มที่ 2 476,676 โดส
- เข็มที่ 3 1,204,070 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.9% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 98.3%
- อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 75.9% เข็มที่3 23.6%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 77.7% เข็มที่2 71.8% เข็มที่3 9.9%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.2% เข็มที่3 60.6% เข็มที่3 9.8%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 75.4% เข็มที่ 67.7% เข็มที่3 6.5%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 74.4% เข็มที่2 70.7% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 71.2% เข็มที่2 64.1% เข็มที่3 9.7%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120% เข็มที่2 110.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.7% เข็มที่2 75.7%
2. ชลบุรี เข็มที่1 93.4% เข็มที่2 87.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 77%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 89.7% เข็มที่2 83.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 95.1% เข็มที่2 88.9%
4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.6% เข็มที่2 85% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.6% เข็มที่2 72.4%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 83.4% เข็มที่2 72% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 96.6% เข็มที่2 89%
6. ระนอง เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 75.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.4% เข็มที่2 74.9%
7. ระยอง เข็มที่1 77.8% เข็มที่2 72.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.1% เข็มที่2 67.5%
8. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 75.3% เข็มที่2 66.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 87.1% เข็มที่2 79.6%
9. พังงา เข็มที่1 74.7% เข็มที่2 72.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.9% เข็มที่2 74.7%
10. กระบี่ เข็มที่1 71.4% เข็มที่2 66.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80% เข็มที่2 75.9%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 70.7% เข็มที่2 65.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.8% เข็มที่2 69.2%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 70.4% เข็มที่2 63% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 72.4% เข็มที่2 64.6%
13. ตราด เข็มที่1 67% เข็มที่2 63.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.6% เข็มที่2 66.2%
14. เลย เข็มที่1 62% เข็มที่2 54% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.2% เข็มที่2 69.4%
15. บุรีรัมย์ เข็มที่1 61.2% เข็มที่2 55% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.8% เข็มที่2 72.8%
16. อุดรธานี เข็มที่1 59.9% เข็มที่2 54% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.9% เข็มที่2 77.7%
17. หนองคาย เข็มที่1 56.7% เข็มที่2 49.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.2% เข็มที่2 65%
รวม เข็มที่1 91.2% เข็มที่2 83.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.3% เข็มที่2 76.4%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 787,988,619 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 279,823,951 (60.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 150,935,915 โดส (79.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 108,711,269 โดส (51.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 104,472,167 โดส (77.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 57,745,456 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 35,680,066 โดส (37.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 31,509,871 โดส (84.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (88%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,194,207 โดส (62.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 823,787 โดส (94.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.61%
2. ยุโรป 10.43%
3. อเมริกาเหนือ 8.96%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.07%
5. แอฟริกา 3.35%
6. โอเชียเนีย 0.58%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,835.33 ล้านโดส (202.5% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,454.77 ล้านโดส (106.4%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 507.66 ล้านโดส (152.9%)
4. บราซิล จำนวน 331.27 ล้านโดส (157.6%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 279.82 ล้านโดส (101.4%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (267.1%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (231.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. บาห์เรน (217.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. มัลดีฟส์ (212.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (211%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. เดนมาร์ก (209%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
7. เกาหลีใต้ (203.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
8. จีน (202.5%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
9. สหราชอาณาจักร (199.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)
10. อุรุกวัย (197.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ไม่มีความคิดเห็น