Breaking News

เสียวหมี่เปิดตัว สมาร์ทโฟน 5G Mi 10T และ Mi 10T Pro สมาร์ทโฟนประสิทธิภาพสูงสำหรับการทำงาน เล่นเกม และการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

ผสานพลังและความคิดสร้างสรรค์กับ Mi 10T Pro ในราคาเริ่มต้นที่ 13,990 บาท และ Mi 10T ในราคา 12,990 บาท ที่มาพร้อมกล้องที่น่าประทับใจ จอแสดงผลแบบ AdaptiveSync ระบบประมวลผลที่ทรงพลังและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน 
พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ IoT มากมายในประเทศไทย


กรุงเทพฯ ประเทศไทย 7 ตุลาคม 2563
– เสียวหมี่ ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ล่าสุด “Mi 10T series” ที่จะ “ปลุกพลังความสร้างสรรค์ให้คุณ” ทั้งยังคงก้าวข้ามขีดจำกัด มอบประสบการณ์ชั้นยอดสำหรับทุกคนตั้งแต่มืออาชีพไปจนถึงผู้ที่ชื่นชอบการสตรีมมิ่งและนักเล่นเกมบนมือถือ โดย Mi 10T Pro วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 13,990 บาท ขณะที่ Mi 10T วางจำหน่ายที่ 12,990 บาท นอกจากนี้ยังมีของขวัญสุดพิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจองในช่วงเวลาที่กำหนด 


มร.โจนาธาน คัง ผู้จัดการ เสียวหมี่ ประเทศไทย
เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เสียวหมี่เราได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้งานและ Mi Fans มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างดีจึงสร้างสรรค์และพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง Mi 10T และ Mi 10T Pro มาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้วยสมาร์ทโฟนที่ทรงประสิทธิภาพกับชิปเซ็ต Snapdragon 865 กล้องคุณภาพสูงความละเอียดคมชัดระดับ 108MP การออกแบบหน้าจอโค้งมนและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้ได้นานขึ้นและการชาร์จที่ไวขึ้น ด้วยคุณสมบ้ติโดดเด่นของทั้ง 2 รุ่น จะส่งมอบประสบการณ์การใช้งานมือถือให้ทุกคนได้เสนุกเพลิดเพลินที่เหนือชั้นกว่า”

มร.โจนาธาน กล่าวเสริมว่า “เราเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดีถึงความต้องการสมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้งการทำงาน เล่นเกมและใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รวมอยู่ในสมาร์ทโฟนเรือธง Mi 10T Pro และ Mi 10T”

Mi 10T Pro และ Mi 10T ยกระดับความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนามือถือไปอีกขั้น


สานต่อตำนานการสร้างความละเอียดสูงแบบอัลตร้าของเสียวหมี่

เป็นเรื่องที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ถึงบทบาทสำคัญของเสียวหมี่ในการสร้างกล้องความละเอียด 108MP ตั้งแต่การเปิดตัวกล้องสมาร์ทโฟน 108MP ตัวแรกของโลกไปจนถึงการนำเสนอนวัตกรรมซอฟต์แวร์การถ่ายภาพนับไม่ถ้วนในปีที่ผ่านมา Mi 10T Pro ยังคงสานต่อตำนานความละเอียดสูงแบบอัลตร้าของแบรนด์ด้วยการรองรับ OIS และวิดีโอความละเอียด 8K Mi 10T มาพร้อมกล้องหลัก 64MP อันน่าประทับใจ ไม่เพียงเท่านี้ทั้ง Mi 10T Pro และ Mi 10T ยังมาพร้อมกล้องสามตัว ทั้งกล้องอัลตร้าไวด์ 13MP และกล้องมาโคร 5MP เพื่อจับภาพช่วงเวลาสำคัญๆ ต่างของคุณ และด้วยกล้องหน้า 20MP ใครๆ ก็ดูดีที่สุดได้ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่หรือวิดีโอคอลกับคนที่คุณรัก


เสียวหมี่ได้เพิ่มขีดความสามารถของเทคโนโลยีที่มีอยู่ สมาร์ทโฟน Mi 10T Pro และ Mi 10T จึงมาพร้อมคุณสมบัติซอฟต์แวร์การถ่ายภาพที่ใหม่และหลากหลาย โหมดการเปิดรับแสงยาว Long Exposure ทั้งหกโหมดช่วยให้ทุกคนสามารถจับภาพที่มีศิลปะตั้งแต่ฝูงชนที่กำลังเคลื่อนที่ซึ่งโฟกัสไปที่วัตถุที่ไม่ได้ขยับในขณะที่เบลอสภาพแวดล้อมที่เคลื่อนไหว ไปจนถึงเส้นทางการเคลื่อนที่ของดวงดาว ซึ่งจะสร้างเอฟเฟกต์ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่หมุนวน Photo Clones จะจับภาพคุณสี่คนได้ในช็อตเดียว นอกจากนี้ฟีเจอร์ Timed Burst ยังมอบโอกาสแห่งความสนุกไม่รู้จบ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่ารูปภาพด้วยช่วงเวลาที่สามารถแปลงเป็นวิดีโอได้ ในขณะที่ฟิลเตอร์ภาพถ่ายสามแบบใหม่ ได้แก่ Cyberpunk, Gold vibes และ Black ice ช่วยชุบชีวิตให้อารมณ์ความรู้สึก

ขยายขอบเขตความสามารถให้สูงขึ้น Mi 10T Pro และ Mi 10T ยังนำเสนอคุณสมบัติวิดีโอใหม่ที่น่าสนใจ Video Clones จับภาพ "คุณสองคน" ในวิดีโอเดียว ในขณะที่ Dual Video สามารถบันทึกจากกล้องด้านหน้าและด้านหลังของอุปกรณ์ได้พร้อมกันจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบันทึกปฏิกิริยาเซอไพรส์ต่างๆ ได้ สุดท้ายวิดีโอเซลฟี่ไทม์แลปส์ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเอฟเฟกต์สุดล้ำเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้วิดีโอบล็อกมากขึ้น


สัมผัสอนาคตแบบไหลลื่นด้วยหน้าจอแสดงผล AdaptiveSync TrueColor 144Hz

หนึ่งในคุณสมบัติหลักของ Mi 10T Pro และ Mi 10T คือจอแสดงผลแบบแบนที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีอัตรารีเฟรช 144Hz ชั้นนำของอุตสาหกรรมในการบูตอีกด้วย ในขณะที่อัตราการรีเฟรชสูงมักใช้พลังงานสูงและอัตราเฟรมที่ไม่สอดคล้องกัน แต่การแสดงผล AdaptiveSync ของเสียวหมี่จะจับคู่อัตราเฟรมของเนื้อหาให้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์เรื่องโปรดที่ 48Hz ไปจนถึงการรับชมซีรีส์ที่ 50Hz รวมไปถึงการสตรีมวิดีโอที่ 30Hz หรือ 60Hz ไปจนถึงการเลื่อนฟีดโซเชียลมีเดียหรือเกมที่สูงถึง 144Hz รับประกันประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นและการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสม และด้วยเทคโนโลยี Motion Estimation, Motion Compensation (MEMC) อุปกรณ์จะแทรกเฟรมมากขึ้นเพื่อให้วิดีโอนั้นลื่นไหลและรับชมได้ดีขึ้น

ด้วยช่วงสี P3 และ TrueColor ทำให้จอแสดงผลมีสีที่หลากหลายและแม่นยำ โหมดการอ่าน 3.0 จะจำลองพื้นผิวกระดาษเพื่อปกป้องดวงตาของคุณในขณะที่ Sunlight display 3.0 จะช่วยเพิ่มความต่างโดยอัตโนมัติและปรับความอิ่มตัวของสีแบบหลากหลายเมื่ออยู่นอกอาคาร ด้วยเซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้าง 360° ในตัวหน้าจอจะสามารถปรับความสว่างได้อย่างชาญฉลาดแม้ในสภาวะย้อนแสง


เพิ่มพลังให้กับความอัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์ของคุณและเริ่มเกมของคุณด้วย Qualcomm® Snapdragon™ 865

ประมวลผลด้วย Qualcomm® Snapdragon™ 865 ระดับเรือธง Mi 10T Pro และ Mi 10T มอบประสิทธิภาพพลัง การปฎิบัติการและการเชื่อมต่อ 5G ที่ยอดเยี่ยม เสียวหมี่ยังอัดแน่นไปด้วยแบนด์ 5G ที่หลากหลายเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานร่วมกับเครือข่ายและสถานที่ต่างๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม

ผู้ใช้จะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมแบบเดสก์ท็อปด้วย Qualcomm® Adreno™ 650 GPU เมื่อใช้ร่วมกับ UFS3.1 และ LPDDR5 สมาร์ทโฟนใหม่นี้ใช้ ROM และ RAM ชั้นนำในอุตสาหกรรมที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน


แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh (typ) พร้อมคุณสมบัติเพิ่มเพื่อให้คุณใช้พลังงานได้ตลอดทั้งวัน
Mi 10T Pro และ Mi 10T เป็นหนึ่งในแบตเตอรี่ซีรีส์เรือธงที่ใหญ่ที่สุดของเสียวหมี่ด้วยขนาดใหญ่กว่า 5000mAh (typ) ด้วยเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานแบตเตอรี่ สมาร์ทโฟนจะปล่อยพลังงานมากขึ้นเพื่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน

เมื่อต้องการชาร์จแบตเตอรี่ คุณจะไม่พลาดอะไรไปแม้แต่น้อยด้วยเทคโนโลยี MMT (Middle Middle Tab) และกระบวนการชาร์จเร็วแบบมีสาย 33W อันรวดเร็วที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยเครื่องชาร์จ 33W ที่ให้มา


ราคาและการวางจำหน่าย

• Mi 10T Pro ความจุ 8GB+128GB ราคา 13,990 บาท จะวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์ม JD CENTRAL, Lazada, Shopee ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
• Mi 10T Pro ความจุ 8GB+256GB ราคา 15,990 บาท จะวางจำหน่ายผ่านร้าน AIS Shop, True Shop, Com7, JAYMART, TG FONE, JD CENTRAL, Lazada, Shopee, Mi Stores และร้านค้าที่ร่วมรายการ ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้เช่นเดียวกัน
• Mi 10T ความจุ 8GB+128GB ราคา 12,990 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 25 ตุลาคม 2563 ผ่านร้าน AIS Shop, Ture Shop, Com7, JAYMART, TG FONE, JD CENTRAL, Lazada, Shopee, Mi Stores และร้านค้าที่ร่วมรายการ

พิเศษสำหรับลูกค้า Mi 10T Pro (ทั้งรุ่นความจุ 8GB+128GB และ ความจุ 8GB+256GB) ที่สั่งจองระหว่างวันที่ 8 – 15 ตุลาคม 2563 นี้ รับฟรี หูฟังไร้สาย Mi True Wireless Earphones 2 Basic มูลค่า 999 บาท โดยลูกค้าที่จอง Mi 10T Pro ผ่านผู้บริการเครือข่าย AIS และ True สามารถรับสิทธิพิเศษสำหรับการซื้อเครื่องในราคาเริ่มต้นเพียง 4,990 บาท* และลูกค้า Mi 10T and Mi 10T Pro ทุกรุ่นรับประกัน 24 เดือน พร้อมประกันจอแตก 6 เดือน** และสิทธิ์การรับชม Netflix 6 เดือน*** นอกจากนี้ลูกค้า Mi 10T Pro สามารถรับสิทธิ์เป็นเจ้าของ Nintendo Switch มูลค่า 12,490 บาท เมื่อจอง Mi 10T Pro ตามเงื่อนไขที่กำหนด****

หมายเหตุ
* ลูกค้า AIS และ True สามารถสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับสิทธิ์ซื้อเครื่อง Mi 10T Pro ในราคาเริ่มต้น 4,990 บาท ได้ที่ร้านผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วประเทศ
** ประกันจอแตก 1 ครั้ง สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Mi 10T หรือ Mi 10T Pro ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2564
*** รับสิทธิ์ชม Netflix (Mobile Plan Package) นาน 6 เดือน โดยตรวจสอบรายละเอียดขอเงื่อนไขการรับสิทธิ์ได้ที่เว็บไซต์ http://www.mi.com/th
**** การรับสิทธิ์เป็นเจ้าของ Nintendo Switch มูลค่า 12,490 บาท โดย 4 ช่องทาง ดังนี้
1. สมาชิก AIS Serenade หรือ True Red / Black Card ที่สั่งจอง Mi 10T Pro ในระหว่างวันที่ 8 –15 ตุลาคม 2563 โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AIS และ True Shop (สินค้ามีจำนวนจำกัด)
2. ลูกค้าที่สั่งจองผ่านอีคอมเมิร์ซ (JD CENTRAL, Lazada และ Shopee) ในวันที่ 8 ตุลาคม 2563 (สินค้ามีจำนวนจำกัด)
3. ลูกค้าที่สั่งจองผ่านร้านและสาขาที่ร่วมรายการ (ตามรายละเอียดด้านล่าง) ในวันที่ 10 ตุลาคม 2563 (สินค้ามีจำนวนจำกัด)
     - Jaymart สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว
     - Com7 สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์
     - TG สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
     - Mi Store สาขาเซ็นทรัลพระราม 2
4. ลูกค้าที่สั่งจอง Mi 10T Pro ผ่านร้าน Jaymart, Com7, TG สาขาใดก็ได้ และ Mi Store สาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ, สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ, แฟชั่น ไอส์แลนด์ ในระหว่างวันที่ 8 – 15 ตุลาคม 2563 แล้วมาร่วมงานรับผลิตภัณฑ์ Mi 10T series ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 16 ตุลาคม 2563 จำนวน 100 คนแรก

Mi AIoT Router AX3600: เราเตอร์ Wi-Fi 6 ตัวแรกของ Xioami
มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Qualcomm® 6-Core ความเร็วไวไฟสูงถึง 2976Mbps รองรับเทคโนโลยี Wi-Fi6 เพาเวอร์แอมป์ภายนอก 6 ตัว เสาอากาศ AIoT แยกโดยเฉพาะ ชิป Wi-Fi แบบดูอัลแบรนด์ 583 M สามารถค้นพบอุปกรณ์ Mi IoT ใหม่แบบอัตโนมัติ RAM 512MB DDR รองรับอุปกรณ์สูงสุด 248 เครื่อง จำหน่ายในราคา 3,490 บาท

Mi Smart Speaker: ผู้ช่วย AI ที่ชาญฉลาดและทรงพลัง

ลำโพงทรงพลัง 12 วัตต์ มีไมโครโฟนระยะไกลแบบคู่ โหมดสเตอริโอ (เชื่อมต่อลำโพง 2 ตัว) มี Google Assistant + Chromecast ในตัวรองรับภาษาไทย และรองรับ Wi-Fi 2.4GHz+5GHz จำหน่ายในราคา 1,690 บาท


Mi Watch: เพิ่มพลังให้กับชีวิตสุดแอคทีฟด้วยสไตล์และฟีเจอร์ที่น่าหลงรัก

การเปิดตัว Mi Watch ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของเสียวหมี่สำหรับตลาดทั่วโลก Mi Watch รองรับไลฟ์สไตล์สุดแอคทีฟทุกรูปแบบ ที่มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโหมดออกกำลังกาย 117 โหมด มีเซ็นเซอร์และ GPS ที่แตกต่างกันหกรูปแบบ รองรับคุณสมบัติมากมายรวมถึงหน้าปัดนาฬิกากว่า 100 แบบ ฟังก์ชั่นรีโมทของกล้อง อีโมจิสำหรับการแจ้งเตือน การควบคุมด้วยเสียงและอื่นๆ อีกมากมาย Mi Watch จะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้

เกี่ยวกับเสียวหมี่
เสียวหมี่ ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2553 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 (1810.HK.) เสียวหมี่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่มีสมาร์ทโฟนและสมาร์ทฮาร์ดแวร์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อด้วยแพลตฟอร์ม Internet of Things (IoT) เป็นแกนหลัก

เสียวหมี่ให้ความสำคัญทั้งด้านนวัตกรรมและคุณภาพ มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดรวมไปถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเสียวหมี่ ไม่ลดละสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพในราคาที่เป็นจริงเพื่อมอบโอกาสให้ทุกคนบนโลกได้เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม

ปัจจุบัน เสียวหมี่ เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 4 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม IoT สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 271 ล้านผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสียวหมี่ วางจำหน่ายมากกว่า 90 ตลาดทั่วโลก

ในเดือนสิงหาคม 2563 เสียวหมี่ ได้รับการจัดอันดับใน “Fortune Global 500” โดยอยู่ในอันดับที่ 422 ไต่ขึ้นมา 46 อันดับจากปีที่แล้ว และบริษัทยังอยู่ในอันดับ 7 ของประเภทบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตอีกด้วย ในเดือนพฤษภาคม 2020 เสียวหมี่ก็ยังคงได้รับการจัดอันดับใน “Forbes Global 2000” อีกครั้ง โดยได้เลื่อนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 384

เสียวหมี่เป็นส่วนหนึ่งของ Hang Seng Index, Hang Seng China Enterprises Index และ Hang Seng TECH Index

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ https://blog.mi.com/en/


ไม่มีความคิดเห็น