“จอยน์ โบ๊ท แพลทฟอร์ม” ครั้งที่ 2 รวมผู้ประกอบการเรือทั่วโลกกว่า 20 แบรนด์ ร่วมงาน “Motor Expo 2021” มั่นใจเม็ดเงินสะพัด 200 ล้านบาท
“จอยน์ โบ๊ท แพลทฟอร์ม” เผยธุรกิจแพลทฟอร์มสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำทุกประเภท โตสวนกระแสโควิด-19 ถึง 10-15% แนะรัฐหลังประกาศเปิดประเทศช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยงเชิงทะเล ด้วยการเปิดรับเรือท่องเที่ยว เรือเดินทะเลจากต่างประเทศมากขึ้น เพื่อดึงเม็ดเงินสู่ตลาดไทย ล่าสุดจัดงาน “จอยน์ โบ๊ท แพลทฟอร์ม” ครั้งที่ 2 ในงาน “Motor Expo 2021” ระหว่างวันที่ 1-12 ธ.ค.64 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี มั่นใจสร้างเงินสะพัด 200 ล้านบาท
นางวชิรา จิตศักดานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท จอยน์ โบ๊ท แพลทฟอร์ม จำกัด เปิดเผยว่า ได้ดำเนินธุรกิจมาเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นบริษัทที่ร่วมทุนระหว่าง 3 พันธมิตร คือ นางวชิรา จิตศักดานนท์,
นายปิยะวัฒน์ มังกรพาณิชย์ และนายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ ในการก่อตั้งบริษัทดังกล่าวขึ้นมา เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่ครบวงจร สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำทุกชนิด เป็นการรวมผู้ประกอบการที่จำหน่ายและให้เช่าเครื่องยนต์ทางน้ำทุกประเภท โดยบริษัทฯจะเป็นตัวกลางระหว่างลูกค้ากับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจนั้นๆ ซึ่งมองว่าธุรกิจเรือยังเป็นสิ่งแปลกใหม่ ประกอบกับวิกฤติโควิด-19 ทำให้คนไทยหันท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าวมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% ซึ่งสวนกระแสสภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลง และจากการที่ภาครัฐประกาศเปิดประเทศ ก็อยากให้ช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยงเชิงทะเลและทางแม่น้ำมากขึ้น ด้วยการเปิดรับเรือท่องเที่ยว เรือเดินทะเลจากต่างประเทศมากขึ้น ก็จะทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างชาติเข้ามาใช้บริการธุรกิจทางน้ำมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการดันเม็ดเงินสู่ตลาดไทยอีกด้วย
“และเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ และบริการของบริษัทฯ จึงได้จัดงาน “จอยน์ โบ๊ท แพลทฟอร์ม” ครั้งที่ 2 ขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงาน “Motor Expo 2021” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยจะมีผู้ประกอบการที่ให้บริการเรือมาจากหลากหลายแบรนด์ทั่วโลก มาร่วมงานประมาณ 13-15 ราย กว่า 20 แบรนด์ชั้นนำ อาทิ Burgess, Princess, Prestige, Jeanneau, Ferrettiyachts, Pershing, Riva, Fairline, Beneteau, Sanlorenzo, Lagoon, Bluegame, Aquila, Highfield, Nimgus, Tige Boats, Galeon, Bali Catamarans, Axopar, Regal, Worldcat, Jet Pirot, Jet Surf, Saxdor Yacht ซึ่งมีทั้งขายเรือมือหนึ่ง มือสอง และบริการหลังการขายทุกชนิด
- บริษัท โบ๊ทลากูน ยอชต์ติ้ง จำกัด ผู้นำเข้า และจำหน่ายเรือยอร์ชระดับลักชัวรี่แบรนด์ดังทั่วโลก เช่น PRINCESS จากอังกฤษ ,JEANNEAU จากฝรั่งเศส และ SACS จากประเทศอิตาลี อีกทั้งบริษัทฯ ยังเป็นมาริน่า, อู่ซ่อมเรือ พร้อมทั้งมีบริการหลังการขายครบครัน และเป็นบริษัทที่ให้บริการในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
- บริษัท มอเตอร์ฟิล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท นำเข้า จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขายทั้งเรือ และอุปกรณ์ แบบครบวงจร ภายในงานได้นำเรือ Regal, World Cat, Saxdor 200 มาโชว์ในงานอีกด้วย
- Simpson Marine (Thailand) ผู้นำการขายเรือทั้งเรือรุ่นใหม่ และเรือมือสอง แห่งเอเชีย ทั้งให้บริการซ่อมแซมและดูแลรักษา พร้อมเครือข่ายที่กว้างขวางด้วยจำนวนเรือมือสองที่พร้อมขายมากกว่า 300 ลำ ทั่วเอเชีย รวมไปถึงเป็นผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการสร้างเรือซุปเปอร์ยอร์ช ภายในงานได้นำเรือแฟร์ไลน์เอฟไลน์ 33 ฟุต และ เรือ Beneteau First 18 เรือใบที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
- บริษัท ไนน์ตี้ไนน์อินเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าของเล่นทางน้ำ Anan Luxury Toy ภายในงานได้นำเรือ X CAT และมีเครื่องเล่นกีฬาทางน้ำมาจัดแสดง อาทิ Jet Surf เป็นต้น
- บริษัท เดอรานี ยอร์ช จำกัด ผู้นำเข้าเรือ เพื่อจำหน่าย ทั้งเรือมือหนึ่ง และมือสอง จากต่างประเทศ และให้บริการดูแลรักษาเรือ ภายในงานได้นำเรือ Axopar 28 T-Top และเรือ Axopar 22 Spyder ซึ่งเป็นเรือที่ได้รับรางวัลเรือนานาชาติมากมายหลายปีซ้อน
- V Yachts Asia Co.,Lttd. บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Ferretti Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทอิตาลีที่เป็นเจ้าของแบรนด์สร้างเรือยอร์ชทั้งหมด 8 แบรนด์ด้วยกัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีไม่เพียงแต่ในกลุ่มเรือยอร์ชเท่านั่น แต่ยังเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบเรือยอร์ชที่หรูหราและทันสมัย ซึ่งภายในงานครั้งนี้ได้นำเรือทั้งสิ้น 3 แบรนด์มาเปิดตัว ได้แก่ Ferretti, Pershing และ Riva
- Bangkok Cruises ผู้ให้บริการเช่าเรือ สุด Exclusive ที่พัทยา, ภูเก็ต และล่องแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรือให้เช่าหลายขนาด
นอกจากนี้บูธ Join Boat Platform ยังได้รับความอนุเคราะห์จากกองทัพเรือ ในการใช้ภาพเพื่อจัดแสดงนิทรรศการ รำลึกถึงพระอัจฉริยภาพด้านการต่อเรือ และทรงเรือใบ ของพระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และยังได้รับความเอื้อเฟื้อจากสมาคมแห่งกีฬาเรือใบ ในการจัดแสดงเรือใบ ประเภทซุปเปอร์มด และประเภทโอเค พร้อมครูฝึก และสาธิตการเล่นเรือใบเบื้องต้น
“ธุรกิจเครื่องยนต์ทางน้ำเป็นธุรกิจใหม่ แต่ด้วยศักยภาพของภูมิประเทศไทยที่มีจังหวัดชายทะเลและแม่น้ำจำนวนมาก จึงทำให้มีผู้ให้บริการธุรกิจทางน้ำมากมาย อาทิ โรงจอดเรือ อู่ซ่อมเรือ สถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ รวมไปถึงผู้ที่มีอาชีพทางน้ำ เช่น คนขับเรือ และผู้ดูแลให้บริการเรือ ซึ่งมั่นใจว่ามีผู้ประกอบการเหล่านี้มากเพียงพอ และสามารถเติบโตได้อีกอย่างต่อเนื่อง จึงต้องการขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมทางเรือได้รับการสนับสนุนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางวชิรา กล่าว
อย่างไรก็ตามในงานดังกล่าวคาดหวังว่าจะสร้างเม็ดเงินได้ 200 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกำลังซื้อในประเทศไทยเกือบ 100% เพราะเป็นทางเลือกใหม่ของคนไทย เนื่องจากไม่สามารถไปเที่ยวต่างประเทศได้ จึงหันมาซื้อและเช่าเรือในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้เม็ดขึ้นสะพัดมากขึ้นเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น