อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 94,280,248 โดส และทั่วโลกแล้ว 8,095 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 679.1 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (117.5%)
➡️(3 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 8,095 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 36.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 462 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 197 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 679.1 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (91.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 239.5 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 94,280,248 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.66%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 8,095 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 94,280,248โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- เข็มแรก 48,732,951 โดส (73.6% ของประชากร)
- เข็มสอง 41,979,486 โดส (63.4% ของประชากร)
- เข็มสาม 3,567,811 โดส (5.4% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-3 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 94,280,248 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 527,092 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 506,454 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,654,870 โดส
- เข็มที่ 2 3,558,894 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 12,933,163 โดส
- เข็มที่ 2 26,829,385 โดส
- เข็มที่ 3 2,513435 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,306,789 โดส
- เข็มที่ 2 6,799,085 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 5,543,075 โดส
- เข็มที่ 2 4,714,355 โดส
- เข็มที่ 3 851,171 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 295,054 โดส
- เข็มที่ 2 77,767 โดส
- เข็มที่ 3 203,205 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122.8% เข็มที่2 119.6% เข็มที่3 94.3%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.5% เข็มที่2 61.7% เข็มที่3 20.1%
- อสม เข็มที่1 78.1% เข็มที่2 74% เข็มที่3 16.4%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 75.2% เข็มที่1 67.6% เข็มที่3 4.1%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 65.1% เข็มที่2 54.5% เข็มที่3 4.2%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.2% เข็มที่2 62.6% เข็มที่3 1.2%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 19.2% เข็มที่2 15.4% เข็มที่3 0.3%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 70.3% เข็มที่2 63.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 67.7% เข็มที่2 58.8% เข็มที่3 5%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 117.5% เข็มที่2 103.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83% เข็มที่2 73.5%
2. ชลบุรี เข็มที่1 90.2% เข็มที่2 82.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.7% เข็มที่2 73.9%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 86.7% เข็มที่2 83.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.9% เข็มที่2 71.2%
4. เชียงใหม่ เข็มที่1 84.2% เข็มที่2 67.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 90.6% เข็มที่2 73.1%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 80.8% เข็มที่2 68.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 95.1% เข็มที่2 86.6%
6. ระนอง เข็มที่1 78.3% เข็มที่2 68% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.9% เข็มที่2 72.1%
7. ระยอง เข็มที่1 73.7% เข็มที่2 64.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.4% เข็มที่2 72.5%
8. พังงา เข็มที่1 73.6% เข็มที่2 68.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 67.8% เข็มที่2 63.3%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 71% เข็มที่2 59.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80.4% เข็มที่2 73.2%
10. กระบี่ เข็มที่1 69.7% เข็มที่2 63.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.6% เข็มที่2 73.6%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 68.4% เข็มที่2 61% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.7% เข็มที่2 66.1%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 66.7% เข็มที่2 59.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 67.2% เข็มที่2 62.1%
13. ตราด เข็มที่1 64.9% เข็มที่2 59.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 67% เข็มที่2 63.9%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 60.2% เข็มที่2 52% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80.5% เข็มที่2 68.6%
15. เลย เข็มที่1 57.4% เข็มที่2 49.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.5% เข็มที่2 64.7%
16. อุดรธานี เข็มที่1 56.8% เข็มที่2 49.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.9% เข็มที่2 73.6%
17. หนองคาย เข็มที่1 54.8% เข็มที่2 47.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.2% เข็มที่2 63.8%
รวม เข็มที่1 88.2% เข็มที่2 77.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.3% เข็มที่2 72.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 679,109,390 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 239,549,926 (51.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 125,164,684 โดส (74.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 94,280,248 โดส (73.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 90,214,170 โดส (47.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 53,828,128 โดส (79.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,896,765 โดส (83.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 28,100,411 โดส (30.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (87%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,237,436 โดส (54.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 754,293 โดส (91.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.44%
2. ยุโรป 10.37%
3. อเมริกาเหนือ 9.19%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.36%
5. แอฟริกา 3.03%
6. โอเชียเนีย 0.61%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,516.38 ล้านโดส (179.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,257,59 ล้านโดส (92%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 462.26 ล้านโดส (139.2%)
4. บราซิล จำนวน 310.77 ล้านโดส (147.9%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 239.55 ล้านโดส (86.8%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (250.9%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (214.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (207.5% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (203.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (197.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (193.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. จีน (179.7%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
8. อิสราเอล (179.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กาตาร์ (178.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
10. กัมพูชา (176.8%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ไม่มีความคิดเห็น