อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 2 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 124,036,549 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,811 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง
ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 972.7 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (113.9%)
➡️(2 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,811 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 28.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 553 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 216 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 972.7 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 345.7 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 2 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 124,036,549 โดส
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,811 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 2 มีนาคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 124,036,549 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- เข็มแรก 53,657,591 โดส (81.1% ของประชากร)
- เข็มสอง 49,770,051 โดส (75.2% ของประชากร)
- เข็มสาม 20,608,907 โดส (31.1% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 2 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 124,036,549 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 226,694 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 264,440 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,901,951 โดส
- เข็มที่ 2 3,599,267 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,891,091 โดส
- เข็มที่ 2 28,460,668 โดส
- เข็มที่ 3 5,012,749 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,544,014 โดส
- เข็มที่ 2 7,237,660 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 8,569,516 โดส
- เข็มที่ 2 9,628,070 โดส
- เข็มที่ 3 12,414,307 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 751,019 โดส
- เข็มที่ 2 844,386 โดส
- เข็มที่ 3 3,181,851 โดส
4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 91.8% เข็มที่2 87.4% เข็มที่3 80%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 113.9% เข็มที่2 105% เข็มที่3 64%
3. นนทบุรี เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 78.5% เข็มที่3 58%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 92.3% เข็มที่2 81.1% เข็มที่3 55.4%
5. อยุธยา เข็มที่1 74.8% เข็มที่2 71.7% เข็มที่3 41.2%
6. ระยอง เข็มที่1 85% เข็มที่2 80.9% เข็มที่3 40.3%
7. ลำพูน เข็มที่1 81.4% เข็มที่2 77.8% เข็มที่3 40%
8. ชลบุรี เข็มที่1 83.4% เข็มที่2 79.4% เข็มที่3 36%
9. นครปฐม เข็มที่1 77.7% เข็มที่2 76.3% เข็มที่3 34.4%
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 69.8% เข็มที่3 34.1%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. ปัตตานี เข็มที่1 57% เข็มที่2 45.6% เข็มที่3 6.3%
2. นราธิวาส เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 44.9% เข็มที่3 6.4%
3. ยะลา เข็มที่1 63.3% เข็มที่2 52.4% เข็มที่3 8.9%
4. บึงกาฬ เข็มที่1 64.5% เข็มที่2 56.5% เข็มที่3 9.3%
5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 63.3% เข็มที่2 57.9% เข็มที่3 10.5%
6. สตูล เข็มที่1 65.2% เข็มที่2 60.2% เข็มที่3 11.1%
7. สกลนคร เข็มที่1 66.2% เข็มที่2 59.9% เข็มที่3 12.3%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 58.9% เข็มที่2 49.7% เข็มที่3 12.4%
9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 67% เข็มที่2 60.5% เข็มที่3 12.6%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 70.6% เข็มที่2 65.2% เข็มที่3 12.7%
2. นราธิวาส เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 44.9% เข็มที่3 6.4%
3. ยะลา เข็มที่1 63.3% เข็มที่2 52.4% เข็มที่3 8.9%
4. บึงกาฬ เข็มที่1 64.5% เข็มที่2 56.5% เข็มที่3 9.3%
5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 63.3% เข็มที่2 57.9% เข็มที่3 10.5%
6. สตูล เข็มที่1 65.2% เข็มที่2 60.2% เข็มที่3 11.1%
7. สกลนคร เข็มที่1 66.2% เข็มที่2 59.9% เข็มที่3 12.3%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 58.9% เข็มที่2 49.7% เข็มที่3 12.4%
9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 67% เข็มที่2 60.5% เข็มที่3 12.6%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 70.6% เข็มที่2 65.2% เข็มที่3 12.7%
5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 972,781,249 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 345,700,796 โดส (69.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 194,970,502 โดส (81.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 135,747,294 โดส (56.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 124,036,549 โดส (81.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 67,313,182 โดส (82.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 44,506,755 โดส (43.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 36,614,375 โดส (86.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,572,663 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 9,292,290 โดส (67.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 1,026,843 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.60%
2. ยุโรป 10.18%
3. อเมริกาเหนือ 8.62%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.17%
5. แอฟริกา 3.81%
6. โอเชียเนีย 0.62%
7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,124.12 ล้านโดส (220.9% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,777.18 ล้านโดส (128.9%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 553.42 ล้านโดส (165.1%)
4. บราซิล จำนวน 392.76 ล้านโดส (185.5%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 345.70 ล้านโดส (125.3%)
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (308.7%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (260.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (250.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เกาหลีใต้ (247.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
5. มัลดีฟส์ (237.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
6. กาตาร์ (235.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
7. ฝรั่งเศส (235.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)
8.บรูไน (232.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
9. บาห์เรน (231.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
10. สิงคโปร์ (230.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ไม่มีความคิดเห็น