Breaking News

แม็คโคร จับมือกรมอนามัย เน้นแผนเชิงรุก ยกระดับมาตรการป้องกันขั้นสูงสุด บิ๊กคลีนนิ่งใหญ่รับปีใหม่ทุกสาขาทั่วไทย สู้โควิด-19 รอบใหม่ไปด้วยกัน


บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ปฏิบัติการเชิงรุก จับมือกรมอนามัย ยกระดับมาตรการป้องกันขั้นสูงสุดยึดแนวทางภาครัฐ ย้ำคุมเข้มสวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง และเพิ่มมาตรการเสริม จัดบิ๊กคลีนนิ่งใหญ่ทุกสาขาทั่วไทย เมื่อวันที่ 1-3 มกราคม 2564 เพิ่มความถี่ทำความสะอาดหลังปิดให้บริการทุกวัน พร้อมยืนยันมีสินค้าเพียงพอความต้องการ !



นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า “เมื่อวันที่ 1-3 มกราคม 2564 แม็คโครได้ปฏิบัติการเชิงรุกอย่างเข้มข้น โดยทำการบิ๊กคลีนนิ่ง ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคครั้งใหญ่ในทุกสาขา รวมทั้งศูนย์กระจายสินค้า ภายใต้คำแนะนำของกรมอนามัยและสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ”


“แม็คโครได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในทุกวิถีทางที่ทำได้ เช่นเดียวกับการทำบิ๊กคลีนนิ่งและฆ่าเชื้อทุกสาขา หลังช่วงการจับจ่ายในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แม้ต้องมีค่าดำเนินการมากขึ้นก็ตาม แต่เราได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานอย่างสูงสุด ส่วนมาตรการอื่นๆ เรายังปฏิบัติตามแนวทางของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดการภายในสาขาให้ปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสถานประกอบการปลอดภัยป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองจากกรมอนามัยในทุกสาขา”


ทั้งนี้มาตรการหลักของแม็คโคร ประกอบด้วย การตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย, การกำหนดให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในสาขา, การเพิ่มจุดวางแอลกอฮอล์เจลให้มากขึ้น, เพิ่มความถี่การทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อยด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 15 นาที อาทิ รถเข็น เคาท์เตอร์บริการต่างๆ โทรศัพท์ ตู้เอทีเอ็ม รถวิลแชร์สำหรับลูกค้า อีกทั้งยังได้เพิ่มมาตรการเสริม ประกอบด้วย


1. กำหนดจำนวนลูกค้าเข้าสาขา โดยการนับจำนวนคนเข้า-ออก และรายงานจำนวนคนที่อยู่ภายในสาขาทุกครึ่งชั่วโมง (1 คนต่อ 1 ตารางเมตร) พร้อมจัดที่นั่งรอห่างกัน 1 เมตรด้านหน้าสาขา เมื่อปริมาณคนในสาขาเกินจำนวนที่กำหนด
2. ตีเส้นรักษาระยะห่างที่พื้น (Social distancing grid) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการรักษาระยะห่างของแต่ละบุคคล ในจุดที่มีความหนาแน่น เช่น แผนกอาหารสด แผนกเนื้อสัตว์ และจุดชำระเงิน
3. จัดทีมรักษาระยะห่าง 3-5 คนต่อสาขา(Social distancing scouts) คอยเดินประกาศ ย้ำเตือนเรื่องการรักษาระยะห่างให้ลูกค้าเกิดความเคยชิน และปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิตใหม่ (New normal)
4. เน้นบริการชำระเงินแบบ Cashless payment เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสดในทุกสาขา


ในส่วนของปริมาณสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ที่มีความต้องการจากประชาชนเป็นจำนวนมาก นางศิริพร กล่าวว่า “แม็คโครขอยืนยันว่าเรามีสินค้าเพียงพอกับความต้องการ ขอให้ลูกค้าประชาชนมั่นใจ และสัญญาว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 เพื่อสุขอนามัยอย่างปลอดภัยขั้นสุงสุดของลูกค้า พนักงานและสังคมโดยรวมเป็นสำคัญ แม็คโครขอเป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกคน เราจะผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากและสู้ไปด้วยกันอีกครั้งค่ะ”


ไม่มีความคิดเห็น