ลอรีอัลเปิดตัว L’Oréal Water Saver เทคโนโลยีดูแลเส้นผมเพื่อความยั่งยืน สำหรับซาลอนและการใช้งานที่บ้านในงาน CES 2021
คลิชี, 13 มกราคม 2564 – ลอรีอัล เปิดตัว “L’Oréal Water Saver” นวัตกรรม Beauty Tech ล่าสุด ที่งาน CES 2021 ซึ่งเป็นระบบดูแลเส้นผมเพื่อความยั่งยืนสำหรับร้านซาลอนและสำหรับการใช้ที่บ้าน โดยลอรีอัลได้พัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวร่วมกับโจซา (Gjosa) บริษัทนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม โดย L’Oréal Water Saver นำเสนอการสระและดูแลเส้นผมรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยที่จะช่วยประหยัดน้ำได้มากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยกระดับความหรูหราและประสิทธิภาพ
การสระผมที่ร้านซาลอนนับเป็นบริการที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาหลายยุคสมัย และด้วยนวัตกรรม L’Oréal Water Saver การสระผมรูปแบบใหม่นี้จะเป็นมิตรต่อโลกเรามากยิ่งขึ้น จากนวัตกรรมที่สามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 80% ลอรีอัลได้พลิกโฉมประสบการณ์สระผมแบบดั้งเดิม ด้วยนวัตกรรมที่ผสานเทคโนโลยีการใช้น้ำพลังงานสูงให้เกิดประโยชน์สูงสุดเข้ากับผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษจากแบรนด์ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล (L’Oréal Professionnel) และเคเรสตาส (Kérastase) ซึ่งผลิตภัณฑ์จะถูกปล่อยออกมาพร้อมกับกระแสน้ำ
"ลอรีอัลเชื่อว่า ความรับผิดชอบของเราคือการทำธุรกิจโดยคำนึงถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบนโลก น้ำทุกหยดนั้นมีค่า ด้วยเหตุนี้ เทคโนโลยีใหม่ของลอรีอัลจึงให้ความสำคัญกับน้ำทุกหยด L’Oréal Water Saver ถือเป็นการยกระดับนวัตกรรม Beauty Tech ของเราไปอีกขั้น ด้วยการมอบประสบการณ์การดูแลเส้นผมที่ยอดเยี่ยม ที่มาพร้อมความยั่งยืนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจของเราในทุกมิติ" นิโคลา อิโรนิมุส รองประธานบริหารสูงสุด ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าว
นวัตกรรม L’Oréal Water Saver เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมเทคโนโลยีของลอรีอัล และโจซา (Gjosa) บริษัทนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมจากสวิตเซอร์แลนด์ จนได้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมชิ้นแรกของโลกที่ผสานความเชี่ยวชาญด้านสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของลอรีอัลที่มีมานานกว่าศตวรรษ เข้ากับเทคโนโลยีการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดของโจซา ที่ใช้หลักการแยกส่วนซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในเครื่องยนต์สำหรับจรวด เพื่อกำหนดรูปแบบการไหลของน้ำ โดยหยดน้ำจะไหลออกมาปะทะกันตามทิศทางที่กำหนดและกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ขนาดของหยดน้ำนั้นเล็กลง และเร่งให้เกิดความเร็วของกระแสน้ำ ส่งผลให้กระแสน้ำที่ไหลออกมาสามารถนำมาสระและชะล้างเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังทำให้แชมพู ครีมนวด และทรีทเมนต์อื่น ๆ สามารถล้างออกได้ง่าย
ฟีเจอร์สุดล้ำจาก L’Oréal Water Saver ประกอบด้วย
- ความเร็วระดับสูงของกระแสน้ำ และช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้มากถึง 80% เมื่อเทียบกับการสระผมตามปกติ: L’Oréal Water Saver ใช้ปริมาณน้ำ 2 ลิตรต่อนาที เมื่อเทียบกับการสระผมทั่วไปที่บ้านซึ่งใช้ปริมาณน้ำถึง 8 ลิตร โดยไม่นับรวมความแตกต่างของแรงดันน้ำ
- ประสบการณ์การดูแลเส้นผมรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีการทำความสะอาด Cloud Cleansing ภายใต้การจดทะเบียนสิทธิบัตร: ด้วยรูปแบบการพ่นน้ำที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กระดับไมโครจะผสานเข้ากับสายน้ำ โดย L’Oréal Water Saver จะทำให้หยดน้ำมีขนาดเล็กกว่าปกติถึง 10 เท่า เพื่อให้น้ำเข้าสู่เส้นผมได้ดีกว่าเดิม และล้างออกได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
- แดชบอร์ดข้อมูลและรายงานการใช้ทรัพยากร: ข้อมูลการประหยัดน้ำและต้นทุนจะแสดงอยู่บนแดชบอร์ดที่จัดทำขึ้นมาสำหรับเจ้าของร้านซาลอน โดยมีบันทึกรวมประวัติการดูแลเส้นผมแสดงอยู่ด้วย นอกเหนือไปจากการติดตามผลในเรื่องการประหยัดน้ำ พลังงาน และต้นทุน
“L’Oréal Water Saver เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งนำนวัตกรรมการดูแลเส้นผมที่สั่งสมมานานกว่าศตวรรษมาผนวกกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ก่อเกิดเป็นประสบการณ์ใหม่แก่ผู้บริโภคที่ควบรวมความยั่งยืน โดยเราหวังที่จะเห็นนวัตกรรมนี้มีการใช้งานทั่วโลก” อามิน อับดุลลา ผู้ร่วมก่อตั้งโจซา กล่าว
L’Oréal Water Saver เปิดให้สัมผัสประสบการณ์แล้วที่ร้านซาลอนของลอรีอัลในนิวยอร์กและปารีส โดยจะมีการขยายบริการนี้ออกไปในประเทศต่างๆ ในปี 2564 และ 2565 บริษัทฯ คาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะสามารถขยายบริการ L’Oréal Water Saver ได้ในซาลอนอีกหลายพันแห่งทั่วโลก ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำได้เป็นจำนวนมหาศาล หรือสูงสุดประมาณ 1 พันล้านแกลลอน หรือ 2.8 พันล้านลิตรต่อปี ส่วนอุปกรณ์ที่สามารถติดตั้งเพื่อการใช้งานภายในบ้านนั้น จะเปิดตัวในภายหลังจากนี้
ข่าวสารที่น่าสนใจจากลอรีอัลในงาน CES 2021:
ลอรีอัลยังได้ประกาศเปิดตัว Perso แก่ผู้บริโภคหลังเทคโนโลยีนี้ได้มีการแนะนำในงาน CES 2020 และได้รับรางวัลไป โดย Perso เป็นระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการใช้งานที่บ้าน เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ความงามเฉพาะบุคคลได้อย่างเต็มรูปแบบ
ปัจจุบัน ลอรีอัลได้เปิดตัว Yves Saint Laurent Rouge Sur Mesure Powered by Perso อุปกรณ์ที่เปิดให้ผู้บริโภคได้รังสรรค์ลิปสติกด้วยตัวเองที่บ้านเครื่องแรกของโลก ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมเทคโนโลยีของลอรีอัล โดยอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี AI โดยใช้ตลับหมึกที่มีเฉดสีแดง สีนู้ด สีส้ม และสีบานเย็นอันเป็นเอกลักษณ์ของ YSL โดยผู้ใช้งาน Perso สามารถสร้างสรรค์ลิปสติกเนื้อครีมแมตต์กำมะหยี่จาก YSL นับพันเฉดสีได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวจะจำหน่ายในราคา 299 ดอลลาร์และมีจำนวนจำกัด สามารถลงทะเบียนเพื่อสั่งจองสินค้าได้ที่ https://www.yslbeauty.com/rouge-sur-mesure โดยจะเริ่มจัดส่งในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ปี 2564
เกี่ยวกับลอรีอัล กรุ๊ป
ลอรีอัลทุ่มเทในธุรกิจความงามมายาวนานกว่า 100 ปี โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบไปด้วยกว่า 36 แบรนด์ ลอรีอัลกรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 29.87 พันล้านยูโรในปี 2562 และมีพนักงานทั้งสิ้น 88,000 คนทั่วโลก ในฐานะองค์กรด้านความงามชั้นนำของโลก ลอรีอัลมีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงตลาดมวลชน ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าในสนามบิน ร้านค้าปลีก และอี-คอมเมิร์ซ
ลอรีอัลยึดมั่นในกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานวิจัย 4,100 คน มุ่งตอบสนองต่อความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลก ลอรีอัลได้ตั้งพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับปี 2030 โดยมีเป้าหมายในสร้างระบบนิเวศแบบองค์รวมและสังคมที่ยั่งยืนต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://mediaroom.loreal.com/
เกี่ยวกับลอรีอัลประเทศไทย
ลอรีอัล ประเทศไทย เป็นสาขาของบริษัทผู้นำความงามของโลก นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ระดับสากล ใน 4 แผนกผลิตภัณฑ์;
- แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค: ลอรีอัล ปารีส การ์นิเย่ และ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก
- แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง: ลังโคม ไบโอเธิร์ม จิออร์จิโอ อาร์มานี คีลส์ ชู อูเอมูระ อีฟ แซงต์ โลร็องต์ เออเบิน ดีเคย์ และ อิท คอสเมติกส์
- แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ: ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล และเคเรสตาส
- แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง: ลา โรช-โพเซย์ วิชี่ และเซราวี
ไม่มีความคิดเห็น