Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 11 กรกฎาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 12,469,188 โดส และทั่วโลกแล้ว 3,393 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 111.796 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 71.66%


➡️(11 กรกฎาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 3,393 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 31.5 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 334 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 159 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 111.796 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (66.2% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 51.278 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 12,469,188 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 49%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 3,393 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2564

    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 12,469,188 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 9,213,598 โดส (13.9% ของประชากร)
        - เข็มสอง 2 3,255,590 โดส (4.9% ของประชากร)



2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 11 ก.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 12,469,188 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 256,899 โดส/วัน ประกอบด้วย

    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 200,233 โดส
        - เข็มที่ 2 537 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 5,236,668 โดส
        - เข็มที่ 2 63,955 โดส
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 3,776,697 โดส
        - เข็มที่ 2 3,191,098 โดส



3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน

     - 95.31% ไม่มีผลข้างเคียง
     - 4.69% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
     - ปวดกล้ามเนื้อ 1.13%
     - ปวดศีรษะ 0.84%
     - ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.60%
     - เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.55%
     - ไข้ 0.37%
     - คลื่นไส้ 0.25%
     - ท้องเสีย 0.16%
     - ผื่น 0.14%
     - ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.11%
     - อาเจียน 0.07%
     - อื่น ๆ 0.48%



4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 109.5% เข็มที่2 96.8%
     - อสม เข็มที่1 36.3% เข็มที่2 18.7%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 15% เข็มที่2 1.0%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 17.9% เข็มที่1 3.8%
     - เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 38.2% เข็มที่2 24.1%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 15.8% เข็มที่2 5.6%
    รวม เข็มที่1 18.4% เข็มที่2 6.5%



5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล

    กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 29.98% เข็มที่2 9.06% ประกอบด้วย
        - กรุงเทพฯ เข็มที่1 40.50% เข็มที่2 11.68%
        - สมุทรสาคร เข็มที่1 23.52% เข็มที่2 12.91%
        - นนทบุรี เข็มที่1 22.92% เข็มที่2 8.87%
        - สมุทรปราการ เข็มที่1 21.93% เข็มที่2 4.73%
        - ปทุมธานี เข็มที่1 14.05% เข็มที่2 4.15%
        - นครปฐม เข็มที่1 9.09% เข็มที่2 2.33%
    จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 7.46% เข็มที่2 2.71%
        - ภูเก็ต เข็มที่1 71.66% เข็มที่2 57.61%
        - ระนอง เข็มที่1 29.92% เข็มที่2 8.02%
        - สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 15.42% เข็มที่2 6.88%
        - เกาะสมุย เข็มที่1 62.12% เข็มที่2 42.58%
        - เกาะเต่า เข็มที่1 72.70% เข็มที่2 13.26%
        - เกาะพะงัน เข็มที่1 46.49% เข็มที่2 6.77%



6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 12,469,188 โดส ได้แก่

     1. อินโดนีเซีย จำนวน 51,278,367 โดส (13.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
     2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 12,942,364 โดส (8.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
     3. ไทย จำนวน 12,469,188 โดส (13.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     4. มาเลเซีย จำนวน 11,075,493 โดส (23.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     5. กัมพูชา จำนวน 8,560,543 โดส (28.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
     6. สิงคโปร์ จำนวน 6,613,124 โดส (66.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
     7. เวียดนาม จำนวน 4,040,783 โดส (3.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     9. ลาว จำนวน 1,658,368 โดส (13.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 108,457 โดส (20.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ



7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 63.75%
     2. อเมริกาเหนือ 13.27%
     3. ยุโรป 15.06%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.06%
     5. แอฟริกา 1.54%
     6. โอเชียเนีย 0.32%



8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

     1. จีน จำนวน 1,364.46 ล้านโดส (48.8% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
     2. สหภาพยุโรป จำนวน 403.31 ล้านโดส (45.4%)
     3. อินเดีย จำนวน 375.71 ล้านโดส (13.7%)
     4. สหรัฐอเมริกา จำนวน 333.57 ล้านโดส (52.1%)
     5. บราซิล จำนวน 112.77 ล้านโดส (27.4%)



9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

     1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (74.0%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     2. บาห์เรน (70.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     3. มัลดีฟส์ (69.5% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     4. ชิลี (62.0%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     5. อุรุกวัย (60.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     6. กาตาร์ (60.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     7. อิสราเอล (60.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     8. สหราชอาณาจักร (60.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     9. แคนาดา (55.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     10. มองโกเลีย (55.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และSputnik V)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น