Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 20 กรกฎาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 14,547,244 โดส และทั่วโลกแล้ว 3,645 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 130.04 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 73.4%


➡️(20 กรกฎาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 3,645 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 32.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 338 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 161 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 130.04 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (70.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 58.81 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 14,547,244 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 50.97%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 3,645 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2564

    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 14,547,244 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 11,067,518 โดส (16.7% ของประชากร)
        - เข็มสอง 2 3,479,726 โดส (5.3% ของประชากร)



2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 20 ก.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 14,547,244 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 234,202 โดส/วัน ประกอบด้วย

    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 470,225 โดส
        - เข็มที่ 2 4,967 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 6,332,899 โดส
        - เข็มที่ 2 130,841 โดส
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 4,264,394 โดส
        - เข็มที่ 2 3,343,918 โดส



3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน

     - 95.91% ไม่มีผลข้างเคียง
     - 4.09% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
     - ปวดกล้ามเนื้อ 0.98%
     - ปวดศีรษะ 0.73%
     - ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.52%
     - เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.48%
     - ไข้ 0.32%
     - คลื่นไส้ 0.22%
     - ท้องเสีย 0.14%
     - ผื่น 0.12%
     - ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.09%
     - อาเจียน 0.06%
     - อื่น ๆ 0.42%



4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 112.3% เข็มที่2 97.7%
     - อสม เข็มที่1 41.1% เข็มที่2 19.7%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 18% เข็มที่2 1.2%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 21.8% เข็มที่1 4.2%
     - เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 42.1% เข็มที่2 25.4%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 19.8% เข็มที่2 6.1%
    รวม เข็มที่1 22.1% เข็มที่2 7%



5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล

    กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 36.2% เข็มที่2 9.5% ประกอบด้วย
        - กรุงเทพฯ เข็มที่1 49% เข็มที่2 12.3%
        - สมุทรสาคร เข็มที่1 25% เข็มที่2 13%
        - นนทบุรี เข็มที่1 27.2% เข็มที่2 9.7%
        - สมุทรปราการ เข็มที่1 26.9% เข็มที่2 4.9%
        - ปทุมธานี เข็มที่1 18.6% เข็มที่2 4.4%
        - นครปฐม เข็มที่1 11.5% เข็มที่2 2.5%
    จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 9.9% เข็มที่2 3.6%
        - ภูเก็ต เข็มที่1 73.4% เข็มที่2 58.4%
        - ระนอง เข็มที่1 32.8% เข็มที่2 9.1%
        - สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 17.8% เข็มที่2 7.2%
        - เกาะสมุย เข็มที่1 28.1% เข็มที่2 8%
        - เกาะเต่า เข็มที่1 17.5% เข็มที่2 5.1%
        - เกาะพะงัน เข็มที่1 20.8% เข็มที่2 3.1%



6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 126,517,650 โดส ได้แก่
     1. อินโดนีเซีย จำนวน 58,814,584 โดส (15.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 15,096,261 โดส (9.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna และ AstraZeneca
     3. มาเลเซีย จำนวน 14,772,221 โดส (30.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     4. ไทย จำนวน 14,547,244 โดส (16.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     5. กัมพูชา จำนวน 10,217,096 โดส (35.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
     6. สิงคโปร์ จำนวน 6,900,632 โดส (70.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
     7. เวียดนาม จำนวน 4,261,252 โดส (4.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     9. ลาว จำนวน 1,800,621 โดส (14.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 134,505 โดส (25.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ



7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 64.31%
     2. อเมริกาเหนือ 12.57%
     3. ยุโรป 14.94%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.29%
     5. แอฟริกา 1.56%
     6. โอเชียเนีย 0.33%



8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
     1. จีน จำนวน 1,456.56 ล้านโดส (52% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
     2. อินเดีย จำนวน 411.36 ล้านโดส (15%)
     3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 338.25 ล้านโดส (52.9%)
     4. บราซิล จำนวน 123.88 ล้านโดส (30.4%)



9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
     1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (76.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     2. มัลดีฟส์ (75.5% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     3. บาห์เรน (71.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     4. ชิลี (64.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     5. อุรุกวัย (64.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     6. กาตาร์ (63.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     7. สหราชอาณาจักร (61.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     8. อิสราเอล (60.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     9. แคนาดา (60.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     10. สิงคโปร์ (59.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna และ Sinovac)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)



ไม่มีความคิดเห็น