Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 18 กรกฎาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 14,223,762 โดส และทั่วโลกแล้ว 3,604 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 126.51 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 73.0%


➡️(18 กรกฎาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 3,604 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 32.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 337 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 161 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 126.51 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (69.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 57.94 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 14,223,762 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 50.7%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 3,604 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2564

    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 14,223,762 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 10,780,432 โดส (16.3% ของประชากร)
        - เข็มสอง 2 3,443,330 โดส (5.2% ของประชากร)



2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 18 ก.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 14,223,762 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 250,705 โดส/วัน ประกอบด้วย

    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 412,076 โดส
        - เข็มที่ 2 727 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 6,180,413 โดส
        - เข็มที่ 2 108,128 โดส
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 4,187,943 โดส
        - เข็มที่ 2 3,334,475 โดส



3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน

     - 95.89% ไม่มีผลข้างเคียง
     - 4.11% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
     - ปวดกล้ามเนื้อ 0.99%
     - ปวดศีรษะ 0.73%
     - ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.53%
     - เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.48%
     - ไข้ 0.32%
     - คลื่นไส้ 0.22%
     - ท้องเสีย 0.14%
     - ผื่น 0.12%
     - ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.09%
     - อาเจียน 0.06%
     - อื่น ๆ 0.42%



4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 112% เข็มที่2 97.6%
     - อสม เข็มที่1 40.6% เข็มที่2 19.5%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 17.5% เข็มที่2 1.2%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 21.2% เข็มที่1 4.1%
     - เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 41.7% เข็มที่2 25.1%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 19.2% เข็มที่2 6.0%
    รวม เข็มที่1 21.6% เข็มที่2 6.9%



5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล

    กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 35.1% เข็มที่2 9.5% ประกอบด้วย
        - กรุงเทพฯ เข็มที่1 47.2% เข็มที่2 12.2%
        - สมุทรสาคร เข็มที่1 24.7% เข็มที่2 13%
        - นนทบุรี เข็มที่1 26.7% เข็มที่2 9.7%
        - สมุทรปราการ เข็มที่1 26.1% เข็มที่2 4.9%
        - ปทุมธานี เข็มที่1 17.9% เข็มที่2 4.3%
        - นครปฐม เข็มที่1 11.3% เข็มที่2 2.4%
    จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 9.7% เข็มที่2 3.6%
        - ภูเก็ต เข็มที่1 73.0% เข็มที่2 58.3%
        - ระนอง เข็มที่1 32.6% เข็มที่2 9.1%
        - สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 17.6% เข็มที่2 7.2%
        - เกาะสมุย เข็มที่1 28.0% เข็มที่2 7.9%
        - เกาะเต่า เข็มที่1 17.5% เข็มที่2 5.1%
        - เกาะพะงัน เข็มที่1 20% เข็มที่2 3.1%



6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 126,517,650 โดส ได้แก่

     1. อินโดนีเซีย จำนวน 57,947,614 โดส (15.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     2. ไทย จำนวน 14,223,762 โดส (16.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 14,074,514 โดส (9.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna และ AstraZeneca
     4. มาเลเซีย จำนวน 14,002,324 โดส (29.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     5. กัมพูชา จำนวน 9,577,592 โดส (34.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
     6. สิงคโปร์ จำนวน 6,727,701 โดส (69.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
     7. เวียดนาม จำนวน 4,261,252 โดส (4.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     9. ลาว จำนวน 1,777,140 โดส (14.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 125,751 โดส (24.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ



7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 64.1%
     2. อเมริกาเหนือ 12.85%
     3. ยุโรป 14.98%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.2%
     5. แอฟริกา 1.55%
     6. โอเชียเนีย 0.32%



8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

     1. จีน จำนวน 1,437.62 ล้านโดส (51.3% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
     2. อินเดีย จำนวน 404.47 ล้านโดส (14.8%)
     3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 337.24 ล้านโดส (52.7%)
     4. บราซิล จำนวน 121.91 ล้านโดส (29.9%)



9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
     1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (76.0%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     2. มัลดีฟส์ (75.5% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     3. บาห์เรน (71.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     4. อุรุกวัย (64.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     5. ชิลี (63.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     6. กาตาร์ (62.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     7. สหราชอาณาจักร (61.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     8. อิสราเอล (60.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     9. แคนาดา (59.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     10. มองโกเลีย (59.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และSputnik V)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น