เสียวหมี่ครองส่วนแบ่งอันดับ 3 ตลาดหูฟังไร้สาย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของไตรมาสแรกปี 2563
ในไทยเสียวหมี่สามารถครอบครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 18.4% ในไตรมาสแรกของปี 2563 ขึ้นเเท่นเป็นอันดับสาม ตามรายงานของ Canalys ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เสียวหมี่ที่เพิ่งเปิดตัวทั่วโลกไปคือหูฟังไร้สาย Mi True Wireless Earphones 2 Basic
กรุงเทพฯ ประเทศไทย 17 กรกฎาคม 2563 - เสียวหมี่ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก คว้าอันดับต้นๆในตลาดหูฟังไร้สายในหลายประเทศทั่วเอเชีย-แปซิฟิก สำหรับประเทศไทยเสียวหมี่สามารถคว้าอันดับสามมาครอง ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 18.4% ในไตรมาสแรกของปี 2563 ตามรายงานของ Canalys
ขณะนี้เสียวหมี่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสามของประเทศไทยในไตรมาสเเรกของปี 2563 ด้านหูฟังไร้สาย และขณะเดียวกันก็ทำลายสถิติและคว้าแชมป์ส่วนแบ่งการตลาดในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียมาครอง การส่งออกของหูฟังไร้สายของเอเชีย-แปซิฟิกนั้นเติบโตขึ้นถึง 61% แซงหน้าตลาดยุโรปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในไตรมาสแรกของปี 2563 จากรายงานของ Canalys
ทั้งหมดนี้ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์อัจฉริยะที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ล่าสุดเสียวหมี่ได้เปิดตัวหูฟังไร้สาย Mi True Wireless Earphones 2 Basic ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์เสียงอัจฉริยะ หูฟังไร้สายตัวใหม่นี้ยังมีเทคโนโลยีพิเศษที่มี in-ear detection หรือเทคโนโลยีตรวจจับการใช้งาน ที่สามารถปิดเสียงโดยอัตโนมัติเมื่อคุณถอดหูฟังออกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ อีกมากมายที่ออกมาเพื่อรองรับสมาร์ทไลฟ์ของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น สายรัดข้อมืออัจฉริยะ Mi Smart Band 5 ที่ออกแบบมาให้โดนใจกว่าเดิม Mi TV Stick เอาใจคนรักความบันเทิงจัดเต็มกับคอนเทนต์ได้อย่างจุใจ มอนิเตอร์เกมจอโค้ง Mi 34 นิ้วหน้าจอกว้างสเปคสูงเล่นเกมได้ลื่นไหล และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Mi Electric Scooter Essential กับการเดินทางที่สะดวกขึ้นไปอีกขั้น
เกี่ยวกับเสียวหมี่
เสียวหมี่ ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK.) เสียวหมี่ บริษัทผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และสมาร์ทฮาร์ดแวร์ เพื่อเชื่อมต่อสู่แพลตฟอร์ม IoT
เสียวหมี่ให้ความสำคัญทั้งด้านนวัตกรรมและคุณภาพ มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดรวมไปถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เสียวหมี่ ไม่ลดละสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจในราคาเพื่อมอบโอกาสให้ทุกคนบนโลกได้เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม
ปัจจุบัน เสียวหมี่ เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 4 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม IoT สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 252 ล้านผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสียวหมี่ วางจำหน่ายมากกว่า 90 ประเทศ ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และอยู่ในอันดับต้นๆ ในตลาดสำคัญต่างๆ
ในเดือนกรกฎาคม 2019 เสียวหมี่ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Fortune Global 500” หรือการจัดอันดับบริษัทที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลก 500 บริษัท ประจำปี 2019 ของนิตยสารฟอร์จูนเป็นครั้งแรก โดยอยู่ในอันดับที่ 468 และบริษัทยังอยู่ในอันดับ 7 ของประเภทบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตและการค้าปลีก และเป็นบริษัทที่มีอายุการก่อตั้งและระยะเวลาในการดำเนินกิจการน้อยที่สุดที่ได้รับการจัดอันดับในปี 2019 ในเดือนพฤษภาคม 2020 เสียวหมี่ก็ยังคงได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Forbes Global 2000” คราวนี้ได้เป็นอันดับที่ 384 ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ http://blog.mi.com/en
เกี่ยวกับเสียวหมี่
เสียวหมี่ ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK.) เสียวหมี่ บริษัทผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และสมาร์ทฮาร์ดแวร์ เพื่อเชื่อมต่อสู่แพลตฟอร์ม IoT
เสียวหมี่ให้ความสำคัญทั้งด้านนวัตกรรมและคุณภาพ มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดรวมไปถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เสียวหมี่ ไม่ลดละสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจในราคาเพื่อมอบโอกาสให้ทุกคนบนโลกได้เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม
ปัจจุบัน เสียวหมี่ เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 4 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม IoT สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 252 ล้านผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสียวหมี่ วางจำหน่ายมากกว่า 90 ประเทศ ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และอยู่ในอันดับต้นๆ ในตลาดสำคัญต่างๆ
ในเดือนกรกฎาคม 2019 เสียวหมี่ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Fortune Global 500” หรือการจัดอันดับบริษัทที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลก 500 บริษัท ประจำปี 2019 ของนิตยสารฟอร์จูนเป็นครั้งแรก โดยอยู่ในอันดับที่ 468 และบริษัทยังอยู่ในอันดับ 7 ของประเภทบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตและการค้าปลีก และเป็นบริษัทที่มีอายุการก่อตั้งและระยะเวลาในการดำเนินกิจการน้อยที่สุดที่ได้รับการจัดอันดับในปี 2019 ในเดือนพฤษภาคม 2020 เสียวหมี่ก็ยังคงได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Forbes Global 2000” คราวนี้ได้เป็นอันดับที่ 384 ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ http://blog.mi.com/en
ไม่มีความคิดเห็น