Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 894 ล้านโดส ใน 173 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 22 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 6 แสนโดส


➡️(19 เมษายน 2564) ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 894 ล้านโดส ใน 173 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 16.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 209 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 70 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว


ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 22 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (14.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 16 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 19 เมษายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 618,583โดส โดยฉีดให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 42%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 894 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 3 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

    1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 209.41 ล้านโดส (32.7% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
    2. จีน จำนวน 189.81 ล้านโดส (6.8%)
    3. อินเดีย จำนวน 122.62 ล้านโดส (4.5%)



2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 8 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

    1. อิสราเอล (57% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
    2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (44.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
    3. มัลดีฟส์ (42.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford)
    4. บาห์เรน (35.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
    5. ชิลี (34.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
    6. สหรัฐอเมริกา (32.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnson)
    7. ภูฏาน (32.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford)
    8. สหราชอาณาจักร (32%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Pfizer/BioNTech)



3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

    1. เอเชียและตะวันออกกลาง 46.75%
    2. อเมริกาเหนือ 26.44%
    3. ยุโรป 18.04%
    4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.93%
    5. แอฟริกา 1.65%
    6. โอเชียเนีย 0.19%



4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 22,984,902 โดส ได้แก่

    1. สิงคโปร์ จำนวน 1,667,522 โดส (14.6% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
    2. อินโดนีเซีย จำนวน 16,740,076 โดส (3.1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac
    3. มาเลเซีย จำนวน 1,135,015 โดส (1.7% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Sinovac
    4. กัมพูชา จำนวน 418,569 โดส (1.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
    5. พม่า จำนวน 1,040,000 โดส (1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
    6. ฟิลิปปินส์ จำนวน 1,255,716 โดส (0.6% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
    7. ไทย จำนวน 618,583 โดส (0.4% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
    8. ลาว จำนวน 40,732 โดส (0.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm
    9. บรูไน จำนวน 2,323 โดส (0.3% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
    10. เวียดนาม จำนวน 66,366 โดส (<0.1% ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca



5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 19 เมษายน 2564

    จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 1,161,849 โดส
    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 618,583 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
       -เข็มแรก 535,925 โดส
       -เข็มสอง 82,658 โดส

    กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการฉีดวัคซีน เรียงตามสัดส่วนมากที่สุด ได้แก่
       -บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข และ อสม. 41.8%
       -ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 39.6%
       -เจ้าหน้าที่อื่นๆที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 9.5%
       -ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 4,4%
       -บุคคลที่มีโรคประจำตัว อย่างละ 4.7%

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น