ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ ประเทศไทย เดินหน้าสร้างหลักชัยธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง
● บริษัทเผยกลยุทธ์และแผนการขยายธุรกิจพลังงานช่วงครึ่งปีหลัง
● Hitachi Energy ให้คำมั่นสัญญาในการส่งเสริมให้ประเทศไทยบรรลุความสำเร็จสู่การเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2065-2070
กรุงเทพฯ 15 กันยายน 2565 - หลังจากบริษัททำการรีแบรนด์เป็น “Hitachi Energy” เมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทจึงเดินหน้าสู่เป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเพื่อ “การขับเคลื่อนอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน”
“สำหรับ Hitachi Energy เราสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานด้วยนวัตกรรมและการประสานความร่วมมือ เพื่อมุ่งสู่การดำเนินธุรกิจที่เป็นกลางทางคาร์บอนให้ได้ภายในปี ค.ศ. 2030” ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ Country Managing Director บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในประเทศไทย เราได้ดำเนินการติดตั้งหลังคาโรงงานเป็นแผงโซลาร์โดยคาดว่าจะช่วยลดอัตราการจัดซื้อพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้เรายังได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนในขั้นตอนการดำเนินงานและมุ่งสู่เป้าหมายแรกในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% โดยฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามสัญญาคาร์บอนเครดิตกับบริษัทชั้นนำของเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย และเมื่อเร็วๆนี้ บริษัทยังได้รับใบรับรองโครงการส่งเสริมสถานประกอบการรวมพลังสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสุขอย่างยั่งยืนประจำปี 2022 (Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works: CSR-DIW) อีกทั้งยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization) ซึ่งจะร่วมขับเคลื่อนการลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่การเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับองค์กรธุรกิจ ทั้งนี้ทางบริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและสรรสร้างนวัตกรรมด้านพลังงาน และในฐานะผู้ประกอบการในประเทศไทย เรายังให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิต การสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไปพร้อมกัน”
“Hitachi Energy เราร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรธุรกิจในการแสวงหาโซลูชันเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก มุ่งสู่อนาคตที่เป็นกลางทางคาร์บอนอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คน สร้างแรงบันดาลใจ พัฒนานวัตกรรมและส่งเสริมความยั่งยืน” ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ กล่าวเสริม
ตั้งแต่เปิดตัว Hitachi Energy บริษัทได้พัฒนาและนำเสนอโซลูชันหลักเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งได้แก่
● EconiQ™ พอร์ตโฟลิโอที่มีประสิทธิภาพเชิงนิเวศเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับโซลูชันทั่วไป โดยพอร์ตโฟลิโอทางไฟฟ้าแรงสูง EconiQ™ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดการเกิดคาร์บอนฟุตพรินต์ตลอดวงจรชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ และในงาน CIGRE 2022 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวเซอร์กิตเบรกเกอร์ 420-kilovolt (kV) Circuit-Breaker ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอทางไฟฟ้าแรงสูง EconiQ™ โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาโซลูชันทางเลือกจากการไม่ใช้ซัลเฟอร์เฮกซาฟลูออไรด์ ที่มีประสิทธิภาพในเชิงนิเวศเศรษฐกิจ
● Grid-eXpand™ ชุดการเชื่อมต่อโครงข่ายแบบฉนวนอากาศและฉนวนก๊าซที่ผลิตแบบโมดูลแนวใหม่ ซึ่งได้รับการพัฒนา ประกอบ และทดสอบในโรงงานก่อนการส่งมอบ เพื่อให้พร้อมใช้งานสำหรับการจัดสรรพลังงานแก่พื้นที่ปฏิบัติงานที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาการติดตั้งได้อย่างมาก และเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืน
● IdentiQ™ โซลูชันระบบดิจิทัลแบบแพ็กคู่ของงานไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันสูง (HVDC) และพอร์ตโฟลิโอคุณภาพไฟฟ้า ช่วยอำนวยความสะดวกในการประสานงานด้านดิจิทัลแบบข้ามสายงาน เพื่อเร่งขั้นตอนการดำเนินโครงการและลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด IdentiQ™ ยังมอบข้อมูลด้านสินทรัพย์ การวิเคราะห์ และข้อมูลการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านแผงควบคุมที่ตรวจสอบข้อมูลได้ง่าย ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง
● Lumada Inspection Insights พอร์ตโฟลิโอโซลูชันดิจิทัลแบบครบวงจรเพื่อการตรวจสอบ การเฝ้าระวัง และการใช้งานสินทรัพย์สำคัญทางธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดย Hitachi Energy และ Hitachi Vantara โดยโซลูชัน Lumada Inspection Insights ช่วยเปิดการทำงานระบบอัตโนมัติเพื่อตรวจสอบสินทรัพย์ ส่งเสริมเป้าหมายด้านความยั่งยืน ยกระดับความปลอดภัยทางกายภาพ และลดความเสี่ยง
● OceaniQ™ พอร์ตโฟลิโอด้านนวัตกรรมของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการรับมือความท้าทายของปัญหานอกชายฝั่งทะเล เพื่อลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัย และยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน
แผนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน Sustainability 2030 ของบริษัท จะเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานทั่วโลกและกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อโลก ผู้คน สันติภาพ และพันธมิตร โดยชื่อ Hitachi Energy คือการสะท้อนถึงภาพรวมด้านพลังงานที่กำลังวิวัฒน์ไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงโอกาสในการสร้างสรรค์คุณค่าทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ชื่อใหม่นี้ยังช่วยตอกย้ำสถานะของบริษัทในการเป็นผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีและบริการทั้งสำหรับลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจด้านโครงข่ายพลังงาน หากยังเปิดรับโอกาสในขอบเขตที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนความยั่งยืนและวิถีชีวิตยุคใหม่ (Smart life) ของผู้คน
ไม่มีความคิดเห็น