Breaking News

BANGKOK BRAND 2020 คัดสรรสุดยอดผลิตภัณฑ์แห่งคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานสินค้ากรุงเทพมหานครกว่า 600 ผลิตภัณฑ์


นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยในงานแถลงข่าวผลการคัดสรรผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) 2020 ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาสังคม จัดโครงการคัดสรรผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) 2020 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานครให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภค รองรับต่อการเข้าสู่ภาวะปกติใหม่ (New Normal) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ 5 ประเภท ได้แก่ประเภทอาหาร ประเภทเครื่องดื่ม ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก และประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร


“ในปีงบประมาณ 2563 โครงการคัดสรรผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) 2020 มี ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรจากคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนทั้งสิ้น 652 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น 5 ระดับ ได้แก่ ระดับ Premium 44 ผลิตภัณฑ์ ระดับ Platinum 151 ผลิตภัณฑ์ ระดับ Gold 225 ผลิตภัณฑ์ ระดับ Silver 153 ผลิตภัณฑ์และระดับ Bronze 79 ผลิตภัณฑ์ 


โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรมาตรฐานและคุณค่าเชิงอัตลักษณ์จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะได้รับตราเครื่องหมาย “Bangkok Brand” และใบประกาศนียบัตรการคัดสรรผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร จึงถือเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่ยอมรับ เชื่อถือ มั่นใจในคุณภาพและบริการของสินค้า ทำให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เกิดเงินทุนหมุนเวียน เกิดการจ้างงาน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนและเศรษฐกิจโดยรวมของกรุงเทพมหานคร ทั้งยังทำให้เกิดการพัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมขยายกิจการไปสู่ธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดย่อม สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค” นายสกลธี กล่าวทิ้งท้าย


ภายหลังจากโครงการคัดสรรผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร (Bangkok Brand) 2020 ดำเนินการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานครจะดำเนินการตรวจมาตรฐานผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อประชาชนว่าผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรยังคงสามารถรักษาคุณภาพมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์กรุงเทพมหานคร 


นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะดำเนินการจัดงานแสดงสินค้าให้กับผู้ประกอบการตลอดทั้งปี เพื่อส่งเสริมการขายและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักต่อประชาชนและผู้บริโภคมากขึ้น และเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ซึ่งถือเป็นการขยายผลและรองรับนโยบาย “มหานครแห่งเศรษฐกิจและการเรียนรู้” ตามนโยบายขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกรุงเทพมหานครต่อไป



ไม่มีความคิดเห็น