Breaking News

เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดงานดิจิทัล เวิลด์ พรีเมียร์ เพื่อเผยโฉม “VISION EQXX” ยานยนต์ประสิทธิภาพสูงสุดจากเมอร์เซเดส-เบนซ์


ในวันอังคารที่ 4 มกราคม เวลา 0.00 น. (เที่ยงคืนของวันที่ 3 มกราคมตามเวลาประเทศไทย) เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น VISION EQXX ในงานดิจิทัล เวิลด์ พรีเมียร์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Mercedes me media โดยรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ต้นแบบจากการวิจัยที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงาน และเป็นยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เคยสร้างมา โดยนอกจากจะเน้นย้ำความแข็งแกร่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของแบรนด์ ยังเป็นการตอกย้ำ “ความเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า” และ “ความเป็นผู้นำในเรื่องซอฟต์แวร์รถยนต์” ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วย นอกจากนี้ ทีมพัฒนาหลากหลายทีมที่เข้ามาทำงานร่วมกันยังสามารถสร้างรถยนต์ VISION EQXX ได้สำเร็จในเวลาอันสั้นด้วย ภายในงาน สมาชิกคณะกรรมการบริษัท ไม่ว่าจะเป็น มร.โอลา คัลเลเนียส และ มร.มาร์คุส เชฟเฟอร์ รวมทั้ง มร.กอร์เดน วาร์กเกอร์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายออกแบบ และผู้เชี่ยวชาญจากทีมพัฒนาที่จะมาอธิบายรายละเอียดของการบุกเบิกและการทำงานร่วมกันของทั้งทีมที่ทำให้ยานยนต์คันนี้สำเร็จออกมาได้ ติดตามการถ่ายทอดสดเวิลด์พรีเมียร์ได้ที่ https://media.mercedes-benz.com/vision_eqxx และรับชมแบบออนดีมานด์ได้หลังจบงาน โดยตั้งแต่วันที่ 5-8 มกราคม 2565 รถยนต์ VISION EQXX จะเป็นไฮไลต์สำคัญที่บูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่งาน CES 2022 ที่จะจัดขึ้นในลาสเวกัสด้วย

งานดิจิทัล เวิลด์ พรีเมียร์จะเปิดให้เข้าชมพร้อมกันสำหรับสาธารณชนและในหลากหลายช่องทาง สื่อมวลชนสามารถจะพบกับข้อมูลเชิงลึกและบริการต่าง ๆ บน Mercedes me media และนอกเหนือจากเสียงต้นฉบับภาษาอังกฤษ ยังมีการถอดเสียงเป็นข้อความ 6 ภาษาที่พร้อมให้อ่านและดาวน์โหลดด้วย นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดเตรียมข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนไว้พร้อมสำหรับการดาวน์โหลด โดยมีทั้งวิดีโอ รูปภาพ กราฟิก และข้อความด้วย


VISION EQXX เป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้านเทคโนโลยีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเป้าหมายในการก้าวข้ามอุปสรรคด้านเทคโนโลยีและยกระดับประสิทธิภาพของการใช้พลังงานขึ้นไปอีกขั้น VISION EQXX ยังแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นได้จริงผ่านการคิดทบทวนการทำงานใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นจากจุดพื้นฐาน ซึ่งหมายรวมถึงความก้าวหน้าในทุกองค์ประกอบของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ล้ำสมัย ตลอดจนการใช้วัสดุที่ยั่งยืนและงานวิศวกรรมที่มีน้ำหนักเบา ประกอบกับการยกระดับด้านประสิทธิภาพ ซึ่งหมายรวมถึงซอฟต์แวร์ขั้นสูงใน VISION EQXX ที่ช่วยเปิดโอกาสให้เมอร์เซเดส-เบนซ์สำรวจขอบเขตใหม่เกี่ยวกับประสิทธิภาพของยานยนต์ได้อย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น

เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี 
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 170,000 คนทั่วโลก โดยมีมร.โอลา คัลเลนเนียส เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น บริษัทยังมีเจตนารมณ์ที่จะเป็นผู้นำในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ยานยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และซับแบรนด์ต่าง ๆ ได้แก่ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี, เมอร์เซเดส-มายบัค, เมอร์เซเดส-อีคิว, G-Class และแบรนด์สมาร์ต แบรนด์ Mercedes me พร้อมมอบการเข้าถึงบริการดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจีเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับพรีเมียมรายใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2563 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 2.1 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 375,000 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจีขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตกว่า 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ในขณะเดียวกัน บริษัทกำลังสร้างและขยายเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลกใน 3 ทวีป และเพราะความยั่งยืนคือแนวทางพื้นฐานทั้งในกลยุทธ์ของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์และสำหรับบริษัทฯ บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พนักงาน นักลงทุน คู่ค้าทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเดมเลอร์ ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัทฯ และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม


ไม่มีความคิดเห็น