Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 23 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 127,658,569 โดส และทั่วโลกแล้ว 11,124 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 1,026 ล้านโดส


➡️(23 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 11,124 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 19.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 559 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 217 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 1,026 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 369.4 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 23 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 127,658,569 โดส

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 11,124 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 23 มีนาคม 2565

    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 127,658,569 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 54,972,110 โดส (83.1% ของประชากร)
        - เข็มสอง 50,143,878 โดส (75.8% ของประชากร)
        - เข็มสาม 22,542,581 โดส (34.1% ของประชากร)



2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 23 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 127,658,569 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 169,542 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 175,302 โดส/วัน



3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 22,913,929 โดส
        - เข็มที่ 2 3,601,427 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 13,959,254 โดส
        - เข็มที่ 2 28,529,488 โดส
        - เข็มที่ 3 5,316,852 โดส
    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 7,559,080 โดส
        - เข็มที่ 2 7,252,316 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน Pfizer
        - เข็มที่ 1 9,771,786 โดส
        - เข็มที่ 2 9,875,015 โดส
        - เข็มที่ 3 13,695,288 โดส
    วัคซีน Moderna
        - เข็มที่ 1 768,061 โดส
        - เข็มที่ 2 885,632 โดส
        - เข็มที่ 3 3,530,441 โดส



4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 1,026,014,170 โดส ได้แก่

     1. อินโดนีเซีย จำนวน 369,439,976 โดส (70.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
     2. เวียดนาม จำนวน 202,029,331 โดส (81.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
     3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 147,208,745 โดส (63.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
     4. ไทย จำนวน 127,658,569 โดส (83.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     5. มาเลเซีย จำนวน 68,546,897 โดส (84%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     6. พม่า จำนวน 48,708,905 โดส (47.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     7. กัมพูชา จำนวน 37,620,514 โดส (87.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
     8. สิงคโปร์ จำนวน 13,721,340 โดส (93%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
     9. ลาว จำนวน 9,988,048 โดส (75.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 1,061,845 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม



5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.72%
     2. ยุโรป 9.98%
     3. อเมริกาเหนือ 8.51%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.2%
     5. แอฟริกา 3.97%
     6. โอเชียเนีย 0.62%



6 ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
     1. จีน จำนวน 3,226,33 ล้านโดส (228.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
     2. อินเดีย จำนวน 1,814.66 ล้านโดส (131.6%)
     3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 558.72 ล้านโดส (166.6%)
     4. บราซิล จำนวน 407.44 ล้านโดส (192.4%)
     5. อินโดนีเซีย จำนวน 369.44 ล้านโดส (133.9%)



7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
     1. คิวบา (310.9%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
     2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (262.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     3. ชิลี (257.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     4. กาตาร์ (243.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
     5. มัลดีฟส์ (241.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     6. บรูไน (240.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
     7. ฝรั่งเศส (236.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)
     8. เกาหลีใต้ (235.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
     9. ภูฏาน (233.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm Pfizer/BioNTech AstraZeneca/Oxford และ Sputnik V)
     10. สิงคโปร์ (233.0%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น