อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 129,362,028 โดส และทั่วโลกแล้ว 11,275 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 1,043.2 ล้านโดส

➡️(31 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 11,275 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 21.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 560 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 218 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 1,043.2 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 378 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 129,362,028 โดส

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 11,275 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565
    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 129,362,028 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 55,494,455 โดส (83.8% ของประชากร)
        - เข็มสอง 50,300,680 โดส (76% ของประชากร)
        - เข็มสาม 23,566,893 โดส (35.6% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 31 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 129,362,028 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 290,459 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 214,184 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 22,915,719 โดส
        - เข็มที่ 2 3,603,114 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 13,992,676 โดส
        - เข็มที่ 2 28,556,603 โดส
        - เข็มที่ 3 5,512,054 โดส
    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 7,564,291 โดส
        - เข็มที่ 2 7,257,733 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน Pfizer
        - เข็มที่ 1 10,247,619 โดส
        - เข็มที่ 2 9,986,790 โดส
        - เข็มที่ 3 14,388,682 โดส
    วัคซีน Moderna
        - เข็มที่ 1 774,150 โดส
        - เข็มที่ 2 896,440 โดส
        - เข็มที่ 3 3,666,157 โดส

4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 1,043,242,211 โดส ได้แก่
     1. อินโดนีเซีย จำนวน 378,074,903 โดส (71.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
     2. เวียดนาม จำนวน 205,882,049 โดส (82%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
     3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 148,799,120 โดส (64.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
     4. ไทย จำนวน 129,362,028 โดส (83.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     5. มาเลเซีย จำนวน 68,849,462 โดส (84.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     6. พม่า จำนวน 49,316,486 โดส (47.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     7. กัมพูชา จำนวน 37,952,085 โดส (87.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
     8. สิงคโปร์ จำนวน 13,825,593 โดส (93%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
     9. ลาว จำนวน 10,112,017 โดส (76.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 1,068,468 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.84%
     2. ยุโรป 9.88%
     3. อเมริกาเหนือ 8.45%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.2%
     5. แอฟริกา 4.01%
     6. โอเชียเนีย 0.62%

6 ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
     1. จีน จำนวน 3,263.13 ล้านโดส (230.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
     2. อินเดีย จำนวน 1,839.70 ล้านโดส (133.4%)
     3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 560.23 ล้านโดส (167.1%)
     4. บราซิล จำนวน 413.56 ล้านโดส (195.3%)
     5. อินโดนีเซีย จำนวน 378.07 ล้านโดส (137%)

7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
     1. คิวบา (311.9%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
     2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (264.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     3. ชิลี (260.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     4. กาตาร์ (246.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
     5. มัลดีฟส์ (245.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     6. บรูไน (242.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
     7. ภูฏาน (240%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm Pfizer/BioNTech AstraZeneca/Oxford และ Sputnik V)
     8. ฝรั่งเศส (236.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)
     9. เกาหลีใต้ (235.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
     10. สิงคโปร์ (234.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)