อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 88,803,596 โดส และทั่วโลกแล้ว 7,674 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 618.7 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (114.8%)
➡️(21 พฤศจิกายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 7,674 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 32.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 445 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 196 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 618.7 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (90.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 223.6 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 88,803,596 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.31%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 7,674 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 88,803,596 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- เข็มแรก 46,646,938 โดส (70.5% ของประชากร)
- เข็มสอง 39,101,640 โดส (59.1% ของประชากร)
- เข็มสาม 3,055,018 โดส (4.6% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-21 พ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 88,803,596 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 472,644 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 619,462 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,399,438 โดส
- เข็มที่ 2 3,547,103 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 11,952,171 โดส
- เข็มที่ 2 25,189,157 โดส
- เข็มที่ 3 2,292,270 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,165,055 โดส
- เข็มที่ 2 6,512,871 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 4,996,440 โดส
- เข็มที่ 2 3,828,209 โดส
- เข็มที่ 3 666,656 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 133,834 โดส
- เข็มที่ 2 24,300 โดส
- เข็มที่ 3 96,092 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.4% เข็มที่2 119.9% เข็มที่3 93.8%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.2% เข็มที่2 60.9% เข็มที่3 18.8%
- อสม เข็มที่1 77.3% เข็มที่2 72.8% เข็มที่3 15.3%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 72.9% เข็มที่1 64.7% เข็มที่3 3.5%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 61.9% เข็มที่2 50.3% เข็มที่3 3.4%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.4% เข็มที่2 60% เข็มที่3 0.9%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 18.1% เข็มที่2 14.2% เข็มที่3 0.2%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 53.8% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 64.8% เข็มที่2 54.3% เข็มที่3 4.2%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 114.8% เข็มที่2 100.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 72.2%
2. ชลบุรี เข็มที่1 87.6% เข็มที่2 79.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.1% เข็มที่2 72.6%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 85.8% เข็มที่2 82.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.4% เข็มที่2 70.7%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 79.2% เข็มที่2 65.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.1% เข็มที่2 85.3%
5. เชียงใหม่ เข็มที่1 78.8% เข็มที่2 60.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 85.1% เข็มที่2 67.4%
6. ระนอง เข็มที่1 74.1% เข็มที่2 62% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.5% เข็มที่2 71.4%
7. พังงา เข็มที่1 71.9% เข็มที่2 64.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74% เข็มที่2 71%
8. ระยอง เข็มที่1 69.4% เข็มที่2 58.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.1% เข็มที่2 60.7%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 1 68.5% เข็มที่2 48.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.9% เข็มที่2 66.9%
10. กระบี่ เข็มที่1 68.2% เข็มที่2 60% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.3% เข็มที่2 71.2%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 65.8% เข็มที่2 56.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.6% เข็มที่2 64.1%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 64.6% เข็มที่2 56.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.3% เข็มที่2 60.9%
13. ตราด เข็มที่1 64% เข็มที่2 53.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 61.5%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 59.1% เข็มที่2 49.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.2% เข็มที่2 63.4%
15. เลย เข็มที่1 55% เข็มที่2 45.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.5% เข็มที่2 59.8%
16. อุดรธานี เข็มที่1 54.5% เข็มที่2 45.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.6% เข็มที่2 70.1%
17. หนองคาย เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 44.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.5% เข็มที่2 62.4%
รวม เข็มที่1 85.6% เข็มที่2 73.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.7% เข็มที่2 70%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 618,717,935 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 223,638,627 โดส (48.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 106,493,301 โดส (68.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 88,803,596 โดส (70.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 74,997,638 โดส (37.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 51,890,563 โดส (78.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,458,728 โดส (83.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 25,869,175 โดส (28.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (86%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 6,756,071 โดส (50%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 726,907 โดส (90.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.30%
2. ยุโรป 10.44%
3. อเมริกาเหนือ 9.32%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.38%
5. แอฟริกา 2.94%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,422.91 ล้านโดส (173.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,165.29 ล้านโดส (85.2%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 444.79 ล้านโดส (139.3%)
4. บราซิล จำนวน 297.96 ล้านโดส (141.8%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 223.64 ล้านโดส (81.1%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (244.8%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (207.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (205% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (201.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (191.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (191%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. อิสราเอล (177.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (175.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กัมพูชา (174.2%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
10. จีน (173.1%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ไม่มีความคิดเห็น