อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 86,890,826 โดส และทั่วโลกแล้ว 7,524 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 603.5 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (113.9%)
➡️(18 พฤศจิกายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 7,581 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 34.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 442 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 195 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 603.5 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (86% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 218.4 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 86,890,826 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.17%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 7,524 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 86,071,507 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
- เข็มแรก 46,005,152 โดส (69.5% ของประชากร)
- เข็มสอง 37,939,622 โดส (57.3% ของประชากร)
- เข็มสาม 2,946,052 โดส (4.5% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 18 พ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 86,890,826 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 819,319 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 621,185 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,270,212 โดส
- เข็มที่ 2 3,543,641 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 11,611,574 โดส
- เข็มที่ 2 24,500,541 โดส
- เข็มที่ 3 2,234,690 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,090,141 โดส
- เข็มที่ 2 6,379,123 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 4,908,691 โดส
- เข็มที่ 2 3,463,166 โดส
- เข็มที่ 3 639,448 โดส
วัคซีน Moerna
- เข็มที่ 1 104,684 โดส
- เข็มที่ 2 19,795 โดส
- เข็มที่ 3 71,914 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.5% เข็มที่2 120.0% เข็มที่3 93.7%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 63.9% เข็มที่2 60.4% เข็มที่3 18.1%
- อสม เข็มที่1 77.1% เข็มที่2 72.5% เข็มที่3 15%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 72.2% เข็มที่1 63.4% เข็มที่3 3.3%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 61% เข็มที่2 48.7% เข็มที่3 3.2%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 67.7% เข็มที่2 59.2% เข็มที่3 0.9%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 17.8% เข็มที่2 13.8% เข็มที่3 0.2%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 65.5% เข็มที่2 48.8% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 63.9% เข็มที่2 52.7% เข็มที่3 4.1%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 113.9% เข็มที่2 98.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.1% เข็มที่2 71.3%
2. ชลบุรี เข็มที่1 86.8% เข็มที่2 77.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.8% เข็มที่2 71.6%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 85.6% เข็มที่2 81.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.3% เข็มที่2 70.3%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 78.4% เข็มที่2 64.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 93.8% เข็มที่2 84.8%
5. เชียงใหม่ เข็มที่1 77.3% เข็มที่2 56.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.5% เข็มที่2 65.6%
6. ระนอง เข็มที่1 72.7% เข็มที่2 60.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.3% เข็มที่2 71.2%
7. พังงา เข็มที่1 71.2% เข็มที่2 63.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.7% เข็มที่2 70.6%
8. ระยอง เข็มที่1 68.4% เข็มที่2 56.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.6% เข็มที่2 60%
9. กระบี่ เข็มที่1 68% เข็มที่2 58.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76% เข็มที่2 70.5%
10. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 1 67.5% เข็มที่2 46.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.8% เข็มที่2 65.9%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 64.7% เข็มที่2 55% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.2% เข็มที่2 63.8%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 63.7% เข็มที่2 55.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 64.7% เข็มที่2 60.6%
13. ตราด เข็มที่1 63.5% เข็มที่2 52.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.3% เข็มที่2 60.7%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 58.7% เข็มที่2 48.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.8% เข็มที่2 61.8%
15. เลย เข็มที่1 54.3% เข็มที่2 43.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.8% เข็มที่2 57.3%
16. อุดรธานี เข็มที่1 54% เข็มที่2 43.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.2% เข็มที่2 68.8%
17. หนองคาย เข็มที่1 51.5% เข็มที่2 43.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 67.9% เข็มที่2 61.5%
รวม เข็มที่1 84.7% เข็มที่2 71.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.3% เข็มที่2 69%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 603,598,510 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 218,409,909 โดส (47.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 102,030,576 โดส (66.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 86,890,826 โดส (69.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 72,763,442 โดส (36.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 51,519,383 โดส (78.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,419,881 โดส (83.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 25,073,018 โดส (27.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (86%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 6,628,868 โดส (48.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 707,278 โดส (89.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.24%
2. ยุโรป 10.45%
3. อเมริกาเหนือ 9.40%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.40%
5. แอฟริกา 2.89%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,396.04 ล้านโดส (171.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,144.91 ล้านโดส (83.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 443.37 ล้านโดส (133.5%)
4. บราซิล จำนวน 297.10ล้านโดส (141.4%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 218.41 ล้านโดส (79.2%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (242%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (204.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (203.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (201.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (191.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (190.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. อิสราเอล (177.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (175.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กัมพูชา (173.8%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
10. สิงคโปร์ (171.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ไม่มีความคิดเห็น