Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 2 กรกฎาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 10,227,183 โดส และทั่วโลกแล้ว 3,100 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 95.755 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ จังหวัดภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 70.25%


➡️(2 กรกฎาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 3,100 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 41.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 328 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 156 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 95.755 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (55.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 44.661 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 10,227,183 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 48.3%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 3,100 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2564

    จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 10,600,000 โดส
    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 10,227,183 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 7,364,585 โดส (11.1% ของประชากร)
        - เข็มสอง 2 2,862,598 โดส (4.3% ของประชากร)



2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 2 ก.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 10,227,183 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 270,070 โดส/วัน ประกอบด้วย

    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 57,784 โดส
        - เข็มที่ 2 46 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 3,705,978 โดส
        - เข็มที่ 2 60,203 โดส
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 3,600,823 โดส
        - เข็มที่ 2 2,802,349 โดส



3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน

     - 94.28% ไม่มีผลข้างเคียง
     - 5.72% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
     - ปวดกล้ามเนื้อ 1.37%
     - ปวดศีรษะ 1.02%
     - ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.73%
     - เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.67%
     - ไข้ 0.45%
     - คลื่นไส้ 0.31%
     - ท้องเสีย 0.20%
     - ผื่น 0.17%
     - ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.13%
     - อาเจียน 0.08%
     - อื่น ๆ 0.59%



4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 106.5% เข็มที่2 94.9%
     - อสม เข็มที่1 30% เข็มที่2 16.6%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 11.2% เข็มที่2 0.7%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 13.4% เข็มที่1 3.1%
     - เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 33.4% เข็มที่2 21.3%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 12.5% เข็มที่2 4.8%
    รวม เข็มที่1 14.7% เข็มที่2 5.7%



5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล

    กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 23.70% เข็มที่2 8.18% ประกอบด้วย
        - กรุงเทพฯ เข็มที่1 32.36% เข็มที่2 10.73%
        - สมุทรสาคร เข็มที่1 19.42% เข็มที่2 11.88%
        - นนทบุรี เข็มที่1 18.74% เข็มที่2 7.50%
        - สมุทรปราการ เข็มที่1 16.50% เข็มที่2 4.02%
        - ปทุมธานี เข็มที่1 10.25% เข็มที่2 3.55%
        - นครปฐม เข็มที่1 5.91% เข็มที่2 2.02%
    จังหวัดอื่นๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 5.88% เข็มที่2 2.27%
        - ภูเก็ต เข็มที่1 70.25% เข็มที่2 56.09%
        - ระนอง เข็มที่1 26.09% เข็มที่2 6.50%
        - สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 13.34% เข็มที่2 6.50%
        - เกาะสมุย เข็มที่1 59.32% เข็มที่2 42.15%
        - เกาะเต่า เข็มที่1 44.31% เข็มที่2 11.84%
        - เกาะพะงัน เข็มที่1 22.49% เข็มที่2 6.17%



6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 95,755,838 โดส ได้แก่

     1. อินโดนีเซีย จำนวน 44,661,928 โดส (11.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
     2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 11,016,198 โดส (7.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
     3. ไทย จำนวน 10,227,183 โดส (11.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
     4. มาเลเซีย จำนวน 8,346,697 โดส (18.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     5. กัมพูชา จำนวน 7,408,517 โดส (25.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
     6. สิงคโปร์ จำนวน 5,365,803 โดส (55.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
     7. เวียดนาม จำนวน 3,813,767 โดส (3.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     8. พม่า จำนวน 3,368,042 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     9. ลาว จำนวน 1,460,294 โดส (12,4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
     10. บรูไน จำนวน 87,409 โดส (16.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ



7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 62.93%
     2. อเมริกาเหนือ 13.98%
     3. ยุโรป 15.26%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 5.95%
     5. แอฟริกา 1.58%
     6. โอเชียเนีย 0.3%



8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

     1. จีน จำนวน 1,244.68 ล้านโดส (44.5% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
     2. สหภาพยุโรป จำนวน 370.67 ล้านโดส (41.7%)
     3. อินเดีย จำนวน 339.63 ล้านโดส (12.4%)
     4. สหรัฐอเมริกา จำนวน 328.15 ล้านโดส (51.3%)



9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

     1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (71.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     2. บาห์เรน (68.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     3. มัลดีฟส์ (68.0% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
     4. ชิลี (59.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     5. อิสราเอล (59.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     6. สหราชอาณาจักร (58.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     7. กาตาร์ (56.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
     8. อุรุกวัย (56.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinovac)
     9. มองโกเลีย (55.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และSputnik V)
     10. ฮังการี (53.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น