Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 11 มิถุนายน ฉีดวัคซีนแล้ว 5,667,058 โดส และทั่วโลกแล้ว 2,264 ล้านโดส ใน 199 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 62.320 ล้านโดส


➡️(11 มิถุนายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 2,264 ล้านโดส ใน 199 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 34.8 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 306 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 142 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 62.320 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (42.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 31.19 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 6,927,375 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 37.2%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 2,264 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2564

    จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 6,927,375 โดส
    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 5,667,058 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 4,143,444 โดส (6.3% ของประชากร)
        - เข็มสอง 1,523,614 โดส (2.3% ของประชากร)



2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-11 มิ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 5,667,058 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 334,039 โดส/วัน ประกอบด้วย

    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 1,143,564 โดส
        - เข็มที่ 2 44,867 โดส
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 2,999,880 โดส
        - เข็มที่ 2 1,478,747 โดส



3. สรุปข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไทย
    ก. กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข
        - เข็มที่1 100.1%
        - เข็มที่2 85.4%
    ข. อสม.
        - เข็มที่1 29.1%
        - เข็มที่2 12.2%
    ค. ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
        - เข็มที่1 21.6%
        - เข็มที่2 9.3%
    ง. ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรคกลุ่มโรค
        - เข็มที่1 8.8%
        - เข็มที่2 1.5%
    ช. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค
        - เข็มที่1 5.4%
        - เข็มที่2 1.7%
    ซ. ประชาชนทั่วไป
        - เข็มที่1 5.2%
        - เข็มที่2 0.2%
    รวมทุกกลุ่ม
        - เข็มที่1 8.3%
        - เข็มที่2 3.0%



4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 62,320,833 โดส ได้แก่

     1. อินโดนีเซีย จำนวน 31,195,606 โดส (7.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
     2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 6,470,776 โดส (4.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
     3. ไทย จำนวน 5,667,058 โดส (6.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
     4. กัมพูชา จำนวน 5,128,310 โดส (16.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
     5. สิงคโปร์ จำนวน 4,392,067 โดส (42.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
     6. มาเลเซีย จำนวน 3,944,987 โดส (8.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     7. พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     8. เวียดนาม จำนวน 1,411,548 โดส (1.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     9. ลาว จำนวน 1,054,356 โดส (9.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
     10. บรูไน จำนวน 61,225 โดส (11.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ



5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 58.57%
     2. อเมริกาเหนือ 16.92%
     3. ยุโรป 16.5%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.02%
     5. แอฟริกา 1.7%
     6. โอเชียเนีย 0.29%



6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

     1. จีน จำนวน 824.86 ล้านโดส (29.5% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
     2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 305.69 ล้านโดส (47.7%)
     3. สหภาพยุโรป จำนวน 284.82 ล้านโดส (32.1%)
     4. อินเดีย จำนวน 245.85 ล้านโดส (9.0%)



7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
     1. มัลดีฟส์ (65.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
     2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (63.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     3. บาห์เรน (62.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     4. อิสราเอล (58.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     5. ชิลี (52.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     6. สหราชอาณาจักร (52.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     7. กาตาร์ (49.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
     8. ฮังการี (48.0%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     9. สหรัฐอเมริกา (47.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnso
     10. อุรุกวัย (45.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer และ Sinovac)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น