Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 121,915,999 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,605 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 956.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (112.9%)


➡️(22 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,605 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 29.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 550 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 215 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 956.9 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 340.1 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 121,915,999 โดส

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,605 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565

    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 121,915,999 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        -เข็มแรก 53,163,555 โดส (80.3% ของประชากร)
        -เข็มสอง 49,496,871 โดส (74.8% ของประชากร)
        -เข็มสาม 19,255,573 โดส (29.1% ของประชากร)



2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 22 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 121,915,999 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 190,673 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 242,687 โดส/วัน




3. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 956,946,901 โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 340,183,405 โดส (68.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 191,667,067 โดส (81.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 134,332,014 โดส (55.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 121,915,999 โดส (80.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 66,289,382 โดส (81.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 43,951,296 โดส (42.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 35,437,340 โดส (85.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,049,391 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 9,115,834 โดส (65.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 1,005,173 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม



4. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.55%
2. ยุโรป 10.22%
3. อเมริกาเหนือ 8.68%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.19%
5. แอฟริกา 3.72%
6. โอเชียเนีย 0.63%



5. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 3,084.71 ล้านโดส (218.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,758.18 ล้านโดส (127.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 549.98 ล้านโดส (164%)
4. บราซิล จำนวน 385.41 ล้านโดส (182%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 340.18 ล้านโดส (123.3%)



6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (307.5%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (258.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (245.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. มัลดีฟส์ (234.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. กาตาร์ (231%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
6. บาห์เรน (230.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
7. เกาหลีใต้ (229.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
8. บรูไน (228%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
9. เดนมาร์ก (226%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
10. อิตาลี (223.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna J&J และ AstraZeneca/Oxford)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น