Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 5 กรกฎาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 10,777,748 โดส และทั่วโลกแล้ว 3,197 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 100.117 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ เกาะเต่า โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 71.99%


➡️(5 กรกฎาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 3,197 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 39.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 331 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 157 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 100.117 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (60.3% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 46.338 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 10,777,748 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 48.7%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 3,197 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2564

    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 10,777,748 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 7,804,654 โดส (11.8% ของประชากร)
        - เข็มสอง 2,973,094 โดส (4.5% ของประชากร)



2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 5 ก.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 10,777,748 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 183,522 โดส/วัน ประกอบด้วย

    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 113,790 โดส
        - เข็มที่ 2 97 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 4,062,520 โดส
        - เข็มที่ 2 61,677 โดส
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 3,628,344 โดส
        - เข็มที่ 2 2,911,320 โดส



3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน

     - 94.52% ไม่มีผลข้างเคียง
     - 5.48% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
     - ปวดกล้ามเนื้อ 1.32%
     - ปวดศีรษะ 0.98%
     - ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.70%
     - เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.64%
     - ไข้ 0.43%
     - คลื่นไส้ 0.29%
     - ท้องเสีย 0.19%
     - ผื่น 0.16%
     - ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.12%
     - อาเจียน 0.08%
     - อื่น ๆ 0.56%



4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 107.2% เข็มที่2 95.4%
     - อสม เข็มที่1 31.2% เข็มที่2 17%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 12% เข็มที่2 0.7%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 14.4% เข็มที่1 3.3%
     - เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 34.5% เข็มที่2 22.1%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 13.3% เข็มที่2 5%
   รวม เข็มที่1 15.6% เข็มที่2 5.9%



5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล

    กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 25.43% เข็มที่2 8.51% ประกอบด้วย
        - กรุงเทพฯ เข็มที่1 34.76% เข็มที่2 11.02%
        - สมุทรสาคร เข็มที่1 20.53% เข็มที่2 12.13%
        - นนทบุรี เข็มที่1 19.73% เข็มที่2 8.49%
        - สมุทรปราการ เข็มที่1 17.78% เข็มที่2 4.18%
        - ปทุมธานี เข็มที่1 11.41% เข็มที่2 3.84%
        - นครปฐม เข็มที่1 6.17% เข็มที่2 2.05%
    จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 6.18% เข็มที่2 2.37%
        - ภูเก็ต เข็มที่1 70.99% เข็มที่2 57.28%
        - ระนอง เข็มที่1 27.43% เข็มที่2 6.50%
        - สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 14.23% เข็มที่2 6.21%
        - เกาะสมุย เข็มที่1 62.07% เข็มที่2 42.19%
        - เกาะเต่า เข็มที่1 71.99% เข็มที่2 11.84%
        - เกาะพะงัน เข็มที่1 30.18% เข็มที่2 6.17%



6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 100,117,146 โดส ได้แก่

     1. อินโดนีเซีย จำนวน 46,338,2029 โดส (11.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
     2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 11,708,029 โดส (8.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
     3. ไทย จำนวน 10,777,748 โดส (11.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     4. มาเลเซีย จำนวน 9,006,715 โดส (19.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     5. กัมพูชา จำนวน 7,690,814 โดส (26.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
     6. สิงคโปร์ จำนวน 5,706,932 โดส (60.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
     7. เวียดนาม จำนวน 3,890,855 โดส (3.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     8. พม่า จำนวน 3,368,042 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
     9. ลาว จำนวน 1,537,511 โดส (12.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 92,298 โดส (17.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ



7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 63.35%
     2. อเมริกาเหนือ 13.74%
     3. ยุโรป 15.13%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 5.94%
     5. แอฟริกา 1.53%
     6. โอเชียเนีย 0.31%



8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

     1. จีน จำนวน 1,296.04 ล้านโดส (46.3% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
     2. สหภาพยุโรป จำนวน 379.37 ล้านโดส (42.7%)
     3. อินเดีย จำนวน 351.22 ล้านโดส (12.8%)
     4. สหรัฐอเมริกา จำนวน 330.60 ล้านโดส (51.6%)
     5. บราซิล จำนวน 104.08 ล้านโดส (24.8%)



9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

     1. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (72.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     2. บาห์เรน (69.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     3. มัลดีฟส์ (68.0% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
     4. ชิลี (60.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     5. อิสราเอล (59.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     6. สหราชอาณาจักร (59.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     7. กาตาร์ (57.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
     8. อุรุกวัย (57.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinovac)
     9. มองโกเลีย (55.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และSputnik V)
     10. ฮังการี (53.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น