Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 1 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 17,685,974 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,103 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 158.01 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 75.3%


➡️(1 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,103 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 40.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 346 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 164 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 158.01 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (73% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 68.15 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 17,685,974 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 52.64%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,104 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2564

    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 17,685,974 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 13,802,916 โดส (20.9% ของประชากร)
        - เข็มสอง 2 3,883,058 โดส (5.9% ของประชากร)



2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 1 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 17,685,974 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 259,447 โดส/วัน ประกอบด้วย

    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 832,316 โดส
        - เข็มที่ 2 153,776 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 7,679,588 โดส
        - เข็มที่ 2 320,491 โดส
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 5,291,012 โดส
        - เข็มที่ 2 3,408,791 โดส



3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน
     - 96.65% ไม่มีผลข้างเคียง
     - 3.35% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
     - ปวดกล้ามเนื้อ 0.80%
     - ปวดศีรษะ 0.60%
     - ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.43%
     - เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.39%
     - ไข้ 0.26%
     - คลื่นไส้ 0.18%
     - ท้องเสีย 0.12%
     - ผื่น 0.10%
     - ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.08%
     - อาเจียน 0.05%
     - อื่น ๆ 0.34%



4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.7% เข็มที่2 99.1%
     - อสม เข็มที่1 47.3% เข็มที่2 21.3%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 23% เข็มที่2 1.4%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 28% เข็มที่1 4.8%
     - เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 46% เข็มที่2 27.1%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 25.5% เข็มที่2 7.1%
    รวม เข็มที่1 27.6% เข็มที่2 7.8%



5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล

    กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 45.9% เข็มที่2 10.7% ประกอบด้วย
        - กรุงเทพฯ เข็มที่1 64.3% เข็มที่2 13.8%
        - สมุทรสาคร เข็มที่1 27.9% เข็มที่2 13.1%
        - นนทบุรี เข็มที่1 30.9% เข็มที่2 10.6%
        - สมุทรปราการ เข็มที่1 30.7% เข็มที่2 5.5%
        - ปทุมธานี เข็มที่1 22.7% เข็มที่2 5.4%
        - นครปฐม เข็มที่1 15% เข็มที่2 3.0%
    จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 12.2% เข็มที่2 4.0%
        - ภูเก็ต เข็มที่1 75.3% เข็มที่2 59.2%
        - ระนอง เข็มที่1 36.8% เข็มที่2 11.6%
        - สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 20% เข็มที่2 7.9%
        - เกาะสมุย เข็มที่1 36% เข็มที่2 10.1%
        - เกาะเต่า เข็มที่1 19.8% เข็มที่2 5.7%
        - เกาะพะงัน เข็มที่1 28.1% เข็มที่2 3.6%



6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 158,013,044 โดส ได้แก่
     1. อินโดนีเซีย จำนวน 68,151,247 โดส (17.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     2. มาเลเซีย จำนวน 20,533,660 โดส (42.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 20,008,331 โดส (10.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna และ AstraZeneca
     4. ไทย จำนวน 17,685,974 โดส (20.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     5. กัมพูชา จำนวน 12,088,317 โดส (43.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
     6. สิงคโปร์ จำนวน 7,626,939 โดส (73.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
     7. เวียดนาม จำนวน 6,203,866 โดส (5.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     9. ลาว จำนวน 2,050,711 โดส (16.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 163,999 โดส (30.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ



7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 65.25%
     2. อเมริกาเหนือ 12.05%
     3. ยุโรป 14.38%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.38%
     5. แอฟริกา 1.58%
     6. โอเชียเนีย 0.36%



8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

     1. จีน จำนวน 1,637.40 ล้านโดส (58.5% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
     2. อินเดีย จำนวน 467.26 ล้านโดส (17.1%)
     3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 345.64 ล้านโดส (54.0%)
     4. บราซิล จำนวน 141.74 ล้านโดส (34.7%)



9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

     1. มัลดีฟส์ (78.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (78.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     3. บาห์เรน (72.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     4. อุรุกวัย (68.0%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     5. กาตาร์ (67.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
     6. ชิลี (66.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     7. สิงคโปร์ (65.0%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
     8. แคนาดา (65.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     9. สหราชอาณาจักร (63.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
     10. เดนมาร์ก (63.5%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น