สยามคูโบต้า เผยครึ่งปีแรก เติบโต 9% มั่นใจปิดปีด้วยยอดขายกว่า 60,000 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวแคมเปญสินค้าพิเศษรุ่น CHANGSUEK EDITION 1,000 คัน ตั้งเป้า 100,000 ล้านบาท ใน 5 ปี
สยามคูโบต้า เปิดตัวเลขยอดขายครึ่งปีแรก 27,000 ล้านบาท มั่นใจสามารถปิดปีได้ตามเป้าที่ 60,000 ล้านบาท เผยกลยุทธ์ นำนวัตกรรมการเกษตรแบบครบวงจรเป็นโซลูชั่นสำคัญในการตอบโจทย์ เกษตรกรในยุคดิจิทัลควบคู่กับการรุกจัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวแคมเปญการตลาดล่าสุด “ช้างศึก” (CHANGSUEK EDITION) เอาใจแฟนบอลไทย ตั้งเป้าอีก 5 ปีข้างหน้ายอดขายทะลุ 100,000 ล้านบาท
ในปี 2562 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 60,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 12 % ซึ่งคาดว่าในปี 2562 บริษัทฯ จะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าเกษตรกรไทยมีรายได้สูงขึ้นจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ด้วยปัจจัยสภาพอากาศ ระบบการจัดการน้ำ นโยบายด้านการเกษตรที่วางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตลอดจนนวัตกรรมการเกษตร ขณะที่สถานการณ์ในตลาดต่างประเทศ สยามคูโบต้ายังคงเป็นอันดับ 1 ที่ส่งออกเครื่องจักรกลการเกษตร พร้อมตั้งเป้านำกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จในไทยไปปรับใช้ในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะงานขายและบริการ พร้อมชูประเด็นสินค้าครบวงจร และอุปกรณ์ที่เหมาะกับการใช้งานในกลุ่มพืชหลัก ทั้งนี้ สยามคูโบต้าตั้งเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้า จะเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละประมาณ 10 % โดยในปี 2567 จะมีมูลค่ายอดขายรวมประมาณ 100,000 ล้านบาท และเน้นการทำตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งตลาดในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 50 : 50
“ปัจจุบันรูปแบบการทำเกษตรของญี่ปุ่นมีการปรับเปลี่ยนมาเป็นการรวมกลุ่มทำเกษตรแปลงใหญ่ และใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาช่วย อีกทั้งเกษตรกรมืออาชีพ (Smart Farmer) มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น คูโบต้า ญี่ปุ่นจึงคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ตลอดจนสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจการทำเกษตรมากขึ้น อาทิ ระบบจัดการฟาร์ม (KSAS: Kubota Smart Agri System) เทคโนโลยีไร้คนขับ (Autonomous Agricultural Machinery) โดรนฉีดพ่นเพื่อการเกษตร (Spraying Drone) ซึ่งสยามคูโบต้าจะร่วมพัฒนาเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่การเกษตรของประเทศไทย และประเทศในแถบอาเซียนต่อไป” นายคิมุระ กล่าวเพิ่มเติม
นายสมศักดิ์ มาอุทธรณ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส เปิดเผยถึง ภาพรวมของตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยช่วงครึ่งปีแรกว่า มีการเติบโตขึ้น 4-5% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชหลักของประเทศ ส่งผลทำให้ความต้องการเครื่องจักรกลการเกษตรเพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของสยามคูโบต้านั้นก็มียอดขายแทรกเตอร์ที่เพิ่มขึ้นถึง 16% เมื่อเทียบกับปี 2561 นอกจากนี้เรายังได้มีพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรที่หลากหลายมากขึ้น เน้นกระบวนการทำงานและการแก้ปัญหาด้านการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ตลอดจนมีขั้นตอนการจัดการฟาร์มที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร จึงทำให้ผลการดำเนินงานของเราเติบโตไปตามเป้าที่วางไว้
สยามคูโบต้าดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายเกษตร 4.0 ของรัฐบาล โดยมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำนวัตกรรมการเกษตรเพื่ออนาคต ด้วยสินค้าและบริการแบบครบวงจร พร้อมทั้งคิดค้นนวัตกรรมการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำ ตลอดจนพัฒนาในด้านสินค้า อะไหล่ บริการหลังการขาย และเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย รวมถึงนำ IoT (Internet of Things) มาใช้ในระบบบริหารจัดการเครื่องจักรเพื่อสอดรับยุคดิจิทัล อาทิ ระบบ Kubota Intelligence Solutions (KIS) พร้อมทั้งดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์แก่เกษตรกรไทย ได้แก่ โครงการเกษตรปลอดการเผา หรือ ZERO Burn โดยร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เผยแพร่การทำเกษตรปลอดการเผา โดยตั้งเป้าให้พื้นที่ภาคการเกษตรของไทยกว่า 140 ล้านไร่ ปลอดการเผา 100% ภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งได้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร การลงพื้นที่รณรงค์กลุ่มเกษตรกร และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการจัดงานสัมมนา Agri Forum 2019 เกษตรปลอดการเผา ซึ่งมีเกษตรกรให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่าพันคน
สำหรับความคืบหน้าการก่อตั้งคูโบต้าฟาร์ม เพื่อเป็นฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ของภูมิภาคอาเซียน บนเนื้อที่มากกว่า 220 ไร่ โดยใช้นวัตกรรมเกษตรครบวงจร เพื่อยกระดับให้เป็นเกษตรแม่นยำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ผลลัพธ์คุ้มค่าทุกตารางเมตร รวมถึงบริหารจัดการรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อนำพาภูมิภาคอาเซียนไปสู่เกษตรยุคใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ คูโบต้าฟาร์มตั้งอยู่ที่ จ.ชลบุรี โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ขณะนี้แล้วเสร็จกว่า 40% ใช้งบลงทุนไป 30 ล้านบาท ในการก่อสร้างเฟสแรก ซึ่งได้รับการตอบรับทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมศึกษาดูงานแล้วกว่า 4,000 ราย ทางสยามคูโบต้าคาดว่าจะสามารถเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบได้ในปี 2563 โดยมีแผนพัฒนาเฟส 2 และ 3 ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568
สำหรับความคืบหน้าการก่อตั้งคูโบต้าฟาร์ม เพื่อเป็นฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ของภูมิภาคอาเซียน บนเนื้อที่มากกว่า 220 ไร่ โดยใช้นวัตกรรมเกษตรครบวงจร เพื่อยกระดับให้เป็นเกษตรแม่นยำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และให้ผลลัพธ์คุ้มค่าทุกตารางเมตร รวมถึงบริหารจัดการรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อนำพาภูมิภาคอาเซียนไปสู่เกษตรยุคใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ คูโบต้าฟาร์มตั้งอยู่ที่ จ.ชลบุรี โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 ขณะนี้แล้วเสร็จกว่า 40% ใช้งบลงทุนไป 30 ล้านบาท ในการก่อสร้างเฟสแรก ซึ่งได้รับการตอบรับทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมศึกษาดูงานแล้วกว่า 4,000 ราย ทางสยามคูโบต้าคาดว่าจะสามารถเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบได้ในปี 2563 โดยมีแผนพัฒนาเฟส 2 และ 3 ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568
นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ เปิดเผยว่า ปีนี้สยามคูโบต้าเป็นส่วนหนึ่งในการรวมพลังเชียร์
นักกีฬาไทย โดยร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้กับทัพช้างศึก ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดตัวสินค้ารุ่น
พิเศษภายใต้ชื่อ CHANGSUEK EDITION ประกอบด้วย แทรกเตอร์ รถเกี่ยวนวดข้าว และรถขุดขนาดเล็ก ชูเอกลักษณ์ความแข็งแกร่งในทุกแมตช์ฤดูกาลทำเกษตรของประเทศไทย มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ตกแต่งลวดลายภายใต้ธีม “ทีมช้างศึก” พร้อมเพิ่มจุดเด่นด้วยการมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น อาทิ ไฟส่องสว่าง LED บังโคลนล้อหลัง ท่อไอเสียแนวตั้ง มือจับ ที่วางแก้ว เป็นต้น เจาะกลุ่มเป้าหมายเกษตรกรยุคใหม่ หรือ Smart Farmer
“สยามคูโบต้าตั้งเป้ายอดขายสินค้าพิเศษรุ่น CHANGSUEK EDITION ไว้ที่ 1,000 คัน โดยในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคมนี้ เราได้ร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ จัดกิจกรรมเปิดตัวสินค้า CHANGSUEK EDITION สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้ารุ่นพิเศษนี้จะได้รับของ Premium Set ได้แก่ เสื้อฟุตบอลช้างศึก กระเป๋าใส่รองเท้า และหมวก ซึ่งเป็นสินค้า Limited โดยมีกำหนดวางจำหน่ายถึงธันวาคม 2562 เท่านั้น” นายพิษณุ กล่าวเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น