Aruba เปิดตัวผลิตภัณฑ์รองรับ 802.11ax (Wi-Fi 6) และผนวกความสามารถของ AI ในงาน AXperience Day
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEizg3PL2gx7TsSNcBb3nroaQwRc5o_6HlShsHopcipj21oKjy6NCAYgJQTZuFDkySex0uFWbOf_gOjbZs3SbncRgPu6j1TnOBudw-GZLTV-2le7GjCAQEUiFUEMAnUrBGvS34evtqIdCHc4/s640/AXperience+Day+1.jpg)
คุณประคุณ เลาหกิตติกุล ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยของ อรูบ้า หนึ่งใน บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด กล่าวเปิดงานในหัวข้อ Experience the Edge ว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ และ มีเพียงในผลิตภัณฑ์ของ Aruba เท่านั้น ซึ่งสามารถตอบสนองต่อ Technology Disruption และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดย Aruba ตอบโจทย์มากกว่าการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย แต่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีเลิศ ทำให้โลกดิจิทัลกับโลกทางกายภาพเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น ด้วยแนวทาง AXperience หรือการบริการเครือข่ายด้วยเทคโนโลยี 802.11ax หรือ Wi-Fi 6 ล้ำยุค ทำให้มีแบนด์วิธสูงขึ้น รองรับอุปกรณ์ได้มากขึ้น และให้บริการได้หลากหลายขึ้น นำมาซึ่งการให้บริการแบบอัจฉริยะ (smart) ในพื้นที่ต่างๆ เช่นห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา สถานศึกษา โรงพยาบาล โรงแรม และในอีกหลาย ๆ สถานที่ ไม่เพียงแต่ให้บริการเครือข่ายที่ดีขึ้นแต่ยังทำให้เครือข่ายสามารถรู้จักอุปกรณ์ และ Application ของผู้ใช้ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั้งแบบกลุ่ม และ รายบุคคล
ล่าสุดด้วยโซลูชั่นของ Aruba สามารถทำลายสถิติการให้การบริการ Wi-Fi ในงาน Super Bowl ครั้งที่ 53 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ได้สูงถึง 24 Terabytes นับว่าเป็นการให้บริการข้อมูลบนเครือข่าย Wi-Fi ที่สูงที่สุดในสหรัฐ ฯ หรืออาจจะในโลกขณะนี้
Aruba ยังก้าวล้ำไปกว่าการให้บริการเครือข่ายไปสู่การให้บริการแพลทฟอร์มด้วยการเป็น AXperience platform โดยการใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้การดูแลเครือข่ายที่มีผู้ใช้และอุปกรณ์จำนวนมากเป็นระบบอัตโนมัติและสร้างหลักประกันการบริการให้ต่อเนื่อง ด้วยการมีโซลูชั่น AirWave และ Central ดูแลการทำงานของเครือข่าย โซลูชั่น ClearPass และ IntroSpect ดูแลด้านความปลอดภัยและพฤติกรรมผิดปกติของผู้ใช้งาน ทำให้เป็นระบบเครือข่ายที่ทำงานเสถียรมาก ตลอด 24 x 7 ใน 365 วัน ทั้งยังมีโซลูชั่นจาก User Experience Insight (UEI) มาช่วยทดสอบประสิทธิภาพของเครือข่ายเสมือนเป็นผู้ใช้คนหนึ่งเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุและแก้ปัญหาก่อนล่วงหน้าและ Meridian มาช่วยเก็บข้อมูลเพื่อให้บริการ Location-based service รวมทั้งยังสามารถทำงานประสานกันเหมือนวงออร์เคสตรากับบริการของผู้ให้บริการอื่น ๆ จึงเป็น Open-multi vendor Edge Software platform ที่จะสามารถให้บริการได้หลากหลายและรองรับอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ของผู้ใช้และอุปกรณ์ IoT และเซ็นเซอร์ทั้งหลายที่มีการใช้มากขึ้นในธุรกิจและชีวิตประจำวัน
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่รองรับ 802.11ax สำหรับสร้างสรรค์ AXperience platform ซึ่ง Aruba ประกาศเปิดตัวในงานนี้ได้แก่
Access Point รุ่น 514 และ 515 , กลุ่มผลิตภัณฑ์ Access Points ใหม่สำหรับเครือข่ายไร้สายรองรับเทคโนโลยี 802.11ax, IoT-ready พร้อมด้วยความปลอดภัยขั้นสูง การเพิ่มประสิทธิภาพ RF โดยใช้พลังเสริมของปัญญาประดิษฐ์ (AI-powered) การตรวจสอบและดูแลการใช้พลังงานอย่างอัจฉริยะ สามารถต่อเชื่อมสัญญาณวิทยุแบบ Zigbee และ Bluetooth 5 ได้อย่างบูรณาการเพื่อรองรับอุปกรณ์ IoT ทั้งยังรองรับมาตรฐาน Wi-Fi Alliance WPA3 และ Opportunistic Wireless Encryption เพื่อสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย Aruba ยังเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ได้รับใบรับรอง Wi-Fi Alliance สำหรับมาตรฐานใหม่นี้
Aruba 2930M access switches รองรับมาตรฐาน 802.3bt ที่ให้กำลังไฟฟ้าแก่ PoE สูงขึ้น (จนถึง 60 วัตต์ต่อพอร์ต) ซึ่งเป็นไปตามความต้องการสำหรับ 802.11ax APs ระดับไฮเอนด์
Aruba NetInsight จะใช้เทคโนโลยี machine learning เพื่อดูแลระบบเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์หาข้อมูลเชิงลึกในกรณีเกิดความผิดปกติ และให้ข้อแนะนำที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบเครือข่าย ทำให้การดูแลระบบเป็นแบบอัตโนมัติและสร้างหลักประกันการบริการให้ต่อเนื่อง
โซลูชัน AI ที่มีประสิทธิภาพเกิดจากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อป้อนอัลกอริทึมที่จะทำให้ระบบเครือข่ายทำงานได้โดยอัตโนมัติและสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการ และต้องมีการนำประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงมาใช้ตรวจสอบประสิทธิภาพของโซลูชันได้ด้วย Aruba มีข้อได้เปรียบที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งรายอื่น ๆ อันได้แก่ความชำนาญด้าน Wi-Fi มามากกว่า 16 ปี พร้อมกับตัวอย่างจากประสบการณ์การเรียนรู้ (learnings) และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (best practices) ในการสร้าง AI Algorithms จากระบบเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกและจากจำนวน APs ที่ติดตั้งมาแล้วนับล้านชุดเพื่อให้การดำเนินงานเครือข่ายเป็นไปอย่างปลอดภัยและเป็นไปโดยอัตโนมัติ
คุณ Surachai Chaiyarangkitrat , System Engineer Manager ของ Aruba นำเสนอในหัวข้อ Smart Network Platform ได้ชี้ให้เห็นแนวโน้มการให้บริการ Wi-Fi ในปัจจุบัน และ อนาคตซึ่งได้แก่ จำนวนอุปกรณ์ของผู้ใช้และอุปกรณ์ให้บริการเครือข่ายล้วนเพิ่มขึ้นมาก ความต้องการใช้แบนด์วิธของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ นั้นมีหลากหลาย การใช้พลังงานหรือกินไฟในแบตเตอรี่ที่สูงขึ้นในอุปกรณ์ และความต้องการให้บริการครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นทั้งในและนอกอาคาร แนวโน้มทั้ง 4 ประการนี้ตอบสนองได้ด้วยการใช้เทคโนโลยี 802.11ax ที่สามารถรองรับผู้ใช้ได้มากขึ้น และรองรับการให้บริการได้ทุกขนาดของแพ็กเก็ตข้อมูล ด้วยการเสริมของเทคโนโลยี OFDMA ทำให้แพ็กเก็ตเล็กส่งเร็วขึ้นได้พร้อมกันถึง 9 Client ต่อช่วงความถึ่ ณ.ปัจจุบัน และเทคโนโลยี MU-MIMO ทำให้การส่งข้อมูลทั้ง Upstream และ Down Stream ทำได้ถึง 8 อุปกรณ์พร้อมกัน และ BSS Colour ที่ทำให้ APs และ clients สามารถส่งข้อมูลได้แม้ช่องสัญญาณยังไม่ว่าง ซึ่งล้วนอยู่ในคุณสมบัติของ APs รุ่น 514 และ 515 ของ Aruba
ในด้านความปลอดภัย APs ทั้ง 2 รุ่นนี้ล้ำหน้าคู่แข่งด้วยการรองรับมาตรฐาน WPA3 ซึ่งจะทำให้เครือข่าย Wi-Fi ในส่วนที่ไม่เคยเข้ารหัสจะถูกเข้ารหัสทั้งหมด และ เครือข่ายที่เคยเข้ารหัสอยู่แล้วมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมี AppRF ทำให้รู้ว่าผู้ใช้ใช้แอพพลิเคชั่นอะไรอยู่ และ กำหนดระดับการให้บริการสำหรับ App นั้นๆ เช่น ระดับความสำคัญ และ แบนด์วิธ เป็นต้น
AP ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังรองรับ Zigbee และ Bluetooth 5 เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ IoT ได้อีกด้วย นอกจากแบนด์วิธที่สูงขึ้นของ 802.11ax ถึง 5.4 Gbps แล้ว ถ้าต้องการรองรับการใช้งานเพิ่มขึ้นสามารถนำ APs มาทำ cluster กันโดยไม่ต้องมี Controller แยกต่างหากได้ หรือ สามารถบริหารจัดการ AP ด้วย Controller ได้มากถึง 10,000 AP ต่อ Cluster ทำให้รองรับ clients ได้มากขึ้น
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhTux4qc2XxeQ4GUeuqHvO52AiE3ROJhqCr8Am-9FqdvnbERwTXRxxdhCFsxakSK8E_T9mEq75zr-kFBpZFvSTjQz8HNdT1goFbl6TyI4jCFD1Kxig8d5tVz5hdk_j5xjaqOIOcFsGSVm2D/s640/AXperience+Day+6.jpg)
คุณ Krtsada Chinhataiwat , System Engineer นำเสนอในหัวข้อ Securing & protection Investment from The inside โดย Aruba 360 Secure Fabric ชุดผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่เป็นเฟรมเวิร์กให้องค์กรต่าง ๆ ในการวิเคราะห์ตรวจจับการโจมตีที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่ตลอดเวลาโดยอรูบ้าเป็นผู้สรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยี User and Entity Behavioral Analytics (UEBA) ด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Aruba IntroSpect ทำให้สามารถตรวจจับการโจมตีจากภายในไปยังเป้าหมายจำเพาะเจาะจง (Insider and Targeted Attack) ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไป (Traditional) ไม่สามารถทำได้โดยใช้วิธีการตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติในระบบเครือข่ายและวิเคราะห์เปรียบเทียบกับพฤติกรรมที่ผ่านมา หรือ เทียบกับผู้ใช้งานอื่นในกลุ่มเดียวกันด้วยเอนจิ้นแบบ machine-learning และ Big Data Analytic
และ เมื่อทำงานร่วมกับ Aruba ClearPass ซึ่งเป็นโซลูชั่นในการกำหนดนโยบายและควบคุมการเข้าถึงระบบเครือข่าย (NAC) ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง โดยเริ่มจากการสร้างโปรไฟล์ให้แก่ อุปกรณ์ Client เช่น BYOD และ IoT กำหนดนโยบายการใช้งาน และสุดท้ายทำการโต้ตอบการโจมตีโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ ClearPass ยังสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยอื่นๆ ในระบบเครือข่ายได้มากกว่า 300 แบรนด์
อุปกรณ์ในโครงสร้างพื้นฐานของระบบเครือข่ายทุกผลิตภัณฑ์จาก Aruba ล้วนมีความสามารถด้านการรักษาความปลอดภั้ย (Aruba Secure Core) ซึ่งมีความจำเป็นอย่างสูงในการป้องกันระบบเครือข่ายทุกระบบ ประกอบด้วย secure boot , embedded firewall , centralized encryption , deep packet inspection และ intrusion prevention การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นเอกลักษณ์นี้ช่วยลดอันตรายจาก physical tempering ขณะเดียวกันก็ทำการป้องกันและตรวจสอบการจราจรบนระบบเครือข่าย
การนำ Aruba IntroSpect UEBA และ Araba ClearPass เชื่อมเข้ากับ Aruba Secure Core ทำให้สามารถสร้างการป้องกันที่ต่อเนื่องตั้งแต่การค้นหาอุปกรณ์และการตรวจจับการเข้าถึงและทำการตอบโต้ ช่วยให้ลูกค้าของ Aruba มีความสามารถที่โดดเด่นในการตรวจจับการโจมตีและทำการตอบโต้โดยอัตโนมัติหรือวิเคราะห์หาแนวทางในการป้องกันทรัพย์สินที่มีคุณค่าขององค์กร หรือแม้แต่การกักหรือทำการขึ้นบัญชีดำผู้ใช้และอุปกรณ์ที่เป็นภัยคุกตาม
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjVjiV4UefDzCX9bUp7ZYjyJq6MqmA5OYeIShyphenhyphenv1GhX700c4tBmpMhfiWfhazxEWYlCpeEHPU4tfHrdr4qaNuqdOkhvl-P5_cvG2GuqIzWtFZJxHSKRK4iX3sIms3L-FiX6AMz__3PwCMVP/s640/AXperience+Day+7.jpg)
ปิดท้ายด้วยการกล่าวสรุปของคุณประคุณ ได้เน้นใน 4 เรื่องได้แก่
Aruba APs รุ่น 514 และ 515 กับ 2930M access switch รองรับ 802.11ax (Wi-Fi 6) เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญจะมาช่วยสนับสนุนการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ต่าง ๆ จำนวนมหาศาลที่ต้องการความเร็วและแบนด์วิธที่หลากหลาย ทำให้อุปกรณ์ทั้ง low และ High speed อยู่ร่วมเครือข่ายเดียวกันได้
Aruba เป็นโซลูชั่นที่ใช้พลังของ AI จึงเหนือกว่าคู่แข่ง เช่น การทำงานของ machine learning ใน Aruba NetInsight เพื่อปรับตั้งการทำงานของเครือข่ายโดยอัตโนมัติให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดตลอดเวลา และ Aruba User Experience Insight (UEI) ทำให้สามารถตรวจสอบการทำงานเครือข่ายได้ตลอดเวลา
Aruba 360 Secure Fabric เป็นโซลูชั่นป้องกันความปลอดภัยที่รวมเอา ClearPass และ IntroSpec ซึ่งทำหน้าที่ติดตามและตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้จำนวนมากที่อาจเป็นอันตรายกับระบบ อุดช่องโหว่และตอบโต้ภัยคุกคามจากภายใน ช่วยลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ไอที และ สถาปัตยกรรม Aruba Mobile-First ทำให้สามารถระบบเครือข่ายสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กร
นอกจากนั้นยังมีบูธอีก 3 บูธซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องทำการสาธิตและอธิบายการใช้งานจริงของ AI-Powered Mobile Innovation , 360 of analytics driven active cyber protection และ User and Entity Behavior Analytics (UEBA) ให้เห็นภาพความสมจริงมากขึ้น และปิดท้ายงานอย่างรื่นเริงในตอนเย็นหลังจากการอัพเดทเทคโนโลยีกันมาอย่างหนักหน่วงด้วยเสียงเพลงเย็น ๆ ใน Mini Concert ของ Stamp Apiwat พร้อมอาหารและเครื่องดื่มยามเย็นสำหรับผู้ร่วมงานในวันนี้กว่า 300 ท่าน
ไม่มีความคิดเห็น