Breaking News

อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 117,094,785 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,232 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 913.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (112%)


➡️(7 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,232 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 28 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 543 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 213 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 913.9 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 323.3 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 117,094,785 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.72%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,232 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ


1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565

    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 117,094,785 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 52,506,813 โดส (79.3% ของประชากร)
        - เข็มสอง 48,938,007 โดส (73.9% ของประชากร)
        - เข็มสาม 15,649,965 โดส (23.6% ของประชากร)



2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 - 7 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 117,094,785 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 216,538 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 291,602 โดส/วัน



3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 22,880,903 โดส
        - เข็มที่ 2 3,598,100 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 13,769,639 โดส
        - เข็มที่ 2 28,295,586 โดส
        - เข็มที่ 3 4,322,855 โดส
    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 7,519,825 โดส
        - เข็มที่ 2 7,209,608 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน Pfizer
        - เข็มที่ 1 7,626,221 โดส
        - เข็มที่ 2 9,066,206 โดส
        - เข็มที่ 3 9,036,858 โดส
    วัคซีน Moderna
        - เข็มที่ 1 710,225 โดส
        - เข็มที่ 2 768,507 โดส
        - เข็มที่ 3 2,290,525 โดส



4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.2% เข็มที่2 112% เข็มที่3 124.6%
     - อสม เข็มที่1 80% เข็มที่2 78.2% เข็มที่3 40%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 105.8% เข็มที่2 100.8% เข็มที่3 34.4%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 88.9% เข็มที่2 82% เข็มที่3 26.9%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.1% เข็มที่2 62% เข็มที่3 19%
     - นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 72.2% เข็มที่2 69.7% เข็มที่3 0%
     - เด็กอายุ 5-11 ปี เข็มที่1 0.9% เข็มที่2 0.1% เข็มที่3 0%
     รวม เข็มที่1 75.5% เข็มที่2 70.4% เข็มที่3 22.5%



5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด

     1. ภูเก็ต เข็มที่1 89.8% เข็มที่2 87% เข็มที่3 57.5%
     2. นนทบุรี เข็มที่1 81.5% เข็มที่2 78% เข็มที่3 46.1%
     3. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 112% เข็มที่2 103.8% เข็มที่3 45.4%
     4. สมุทรปราการ เข็มที่1 90.9% เข็มที่2 79.7% เข็มที่3 40.1%
     5. ลำพูน เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 75.4% เข็มที่3 33.4%
     6. อยุธยา เข็มที่1 72.9% เข็มที่2 70.5% เข็มที่3 33%
     7. ระยอง เข็มที่1 83.1% เข็มที่2 79.3% เข็มที่3 29.9%
     8. นครปฐม เข็มที่1 76% เข็มที่2 75.4% เข็มที่3 27.9%
     9. ชลบุรี เข็มที่1 82% เข็มที่2 78.2% เข็มที่3 27%
     10. สระบุรี เข็มที่1 63.5% เข็มที่2 65% เข็มที่3 26.2%
    10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
     1. นราธิวาส เข็มที่1 55.3% เข็มที่2 44.6% เข็มที่3 5.2%
     2. ปัตตานี เข็มที่1 56.1% เข็มที่2 45.2% เข็มที่3 5.4%
     3. บึงกาฬ เข็มที่1 62.8% เข็มที่2 55.3% เข็มที่3 7.4%
     4. ยะลา เข็มที่1 62.4% เข็มที่2 52.1% เข็มที่3 7.7%
     5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 62.2% เข็มที่2 56.7% เข็มที่3 8.5%
     6. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 57% เข็มที่2 45.4% เข็มที่3 9%
     7. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 64.9% เข็มที่2 59.3% เข็มที่3 9.4%
     8. สตูล เข็มที่1 63.4% เข็มที่2 59.7% เข็มที่3 9.4%
     9. สกลนคร เข็มที่1 64.6% เข็มที่2 57.8% เข็มที่3 10.4%
     10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 68.8% เข็มที่2 64.5% เข็มที่3 10.9%



6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 913,969,399 โดส ได้แก่
     1. อินโดนีเซีย จำนวน 323,371,246 โดส (67.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
     2. เวียดนาม จำนวน 182,180,300 โดส (81.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
     3. ฟิลิปปินส์ 128,491,213 โดส (54.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
     4. ไทย จำนวน 117,094,785 โดส (79.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     5. มาเลเซีย จำนวน 63,985,709 โดส (80%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     6. พม่า จำนวน 41,602,977 โดส (40.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     7. กัมพูชา จำนวน 34,432,653 โดส (84.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
     8. สิงคโปร์ จำนวน 12,870,890 โดส (91%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
     9. ลาว จำนวน 8,960,341 โดส (65%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 979,285 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม



7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.48%
     2. ยุโรป 10.44%
     3. อเมริกาเหนือ 8.80%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.15%
     5. แอฟริกา 3.51%
     6. โอเชียเนีย 0.62%



8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
     1. จีน จำนวน 3,009.90 ล้านโดส (212.8% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
     2. อินเดีย จำนวน 1,696.24 ล้านโดส (123%)
     3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 543.26 ล้านโดส (162%)
     4. บราซิล จำนวน 368.57 ล้านโดส (174.1%)
     5. อินโดนีเซีย จำนวน 323.37 ล้านโดส (117.2%)



9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

     1. คิวบา (304.5%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
     2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (255.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     3. ชิลี (241%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
     4. บาห์เรน (228.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     5. เกาหลีใต้ (225.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
     6. เดนมาร์ก (225.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
     7. มัลดีฟส์ (224.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     8. บรูไน (222.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
     9. กาตาร์ (222%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
     10. สิงคโปร์ (218.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)


ไม่มีความคิดเห็น