เสียวหมี่ ปลื้มขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง มีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนมากที่สุดในประเทศไทย
กรุงเทพฯ, 4 มิถุนายน 2563 – เสียวหมี่ ประเทศไทย ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ก้าวเป็นผู้นำตลาดครั้งแรก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนมากที่สุดในประเทศไทย 16.2% ในไตรมาสแรกปี 2563 จากการสำรวจของการ์ทเนอร์ ในเดือนมิถุนายน
มร.โจนาธาน คัง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความสำเร็จจากการสร้างยอดขายสมาร์ทโฟนและมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย จากการสำรวจของการ์ทเนอร์ ระบุเสียวหมี่ มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยไตรมาสแรก ปี 2563 ด้วยสัดส่วน 16.2% มีจำนวนยอดขายกว่า 691,000 เครื่อง ธุรกิจสมาร์ทโฟนของเราได้รับการยอมรับในตลาดเป็นอยางดี ต้องขอบคุณสาวกเสียวหมี่ Mi Fans ผู้ใช้งาน สื่อมวลชน และพันธมิตรธุรกิจของเสียวหมี่ด้วย
การ์ทเนอร์ ยังระบุอีกว่าผลจากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ยอดจำหน่ายของกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั่วโลกลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 มีเพียงเสียวหมี่เท่านั้นที่มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยเสียวหมี่มียอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกช่วงไตรมาสแรก ปี 2563 เพิ่มขึ้น ก้าวสู่อันดับ 4 ของตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 9.3% คิดเป็นจำนวนเครื่อง 27,817,000 ยูนิต เพิ่มขึ้น 1.4% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562 มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 7.3%
“ในปีนี้ เราจะนำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ มากขึ้น รวมถึงกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฮมที่หลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่มีมากขึ้น ล่าสุด เสียวหมี่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Redmi Note 9 Pro และ Redmi Note 9 ร่วมด้วย Mi Note 10 Lite และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น” ผู้จัดการใหญ่ประจำเสียวหมี่ประเทศไทย กล่าว
เกี่ยวกับเสียวหมี่
เสียวหมี่ ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Main Board of the Hong Kong Stock Exchange ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2018 (1810.HK.) เสียวหมี่ บริษัทผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และสมาร์ทฮาร์ดแวร์ เพื่อเชื่อมต่อสู่แพลตฟอร์ม IoT
เสียวหมี่ให้ความสำคัญทั้งด้านนวัตกรรมและคุณภาพ มุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดรวมไปถึงการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เสียวหมี่ ไม่ลดละสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจในราคาเพื่อมอบโอกาสให้ทุกคนบนโลกได้เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม
ปัจจุบัน เสียวหมี่ เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับที่ 4 ของโลก และได้สร้างแพลตฟอร์ม IoT สำหรับลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยสมาร์ทดีไวซ์มากกว่า 252 ล้านผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ไม่รวมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสียวหมี่ วางจำหน่ายมากกว่า 90 ประเทศ ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และอยู่ในอันดับต้นๆ ในตลาดสำคัญต่างๆ
ในเดือนกรกฎาคม 2019 เสียวหมี่ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Fortune Global 500” หรือการจัดอันดับบริษัทที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลก 500 บริษัท ประจำปี 2019 ของนิตยสารฟอร์จูนเป็นครั้งแรก โดยอยู่ในอันดับที่ 468 และบริษัทยังอยู่ในอันดับ 7 ของประเภทบริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตและการค้าปลีก และเป็นบริษัทที่มีอายุการก่อตั้งและระยะเวลาในการดำเนินกิจการน้อยที่สุดที่ได้รับการจัดอันดับในปี 2019 ในเดือนพฤษภาคม 2020 เสียวหมี่ก็ยังคงได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Forbes Global 2000” คราวนี้ได้เป็นอันดับที่ 384 ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวเสียวหมี่ สามารถเข้าชมได้ที่ http://blog.mi.com/en
ไม่มีความคิดเห็น