Breaking News

แลนเซสส์ (LANXESS) และ Advent International ตั้งบริษัทร่วมทุนชั้นนำระดับโลกด้านวัสดุโพลีเมอร์วิศวกรรมประสิทธิภาพสูง

  • แลนเซสส์และ Advent เข้าซื้อธุรกิจวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) จาก DSM ด้วยราคาประมาณ 3.7 พันล้านยูโร
  • แลนเซสส์จะโอนหน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง (High Performance Materials) เข้าสู่กิจการร่วมทุนนี้
  • แลนเซสส์จะได้รับเงินตอบแทนอย่างน้อย 1.1 พันล้านยูโรและถือหุ้นสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในการร่วมทุน
  • แลนเซสสจะนำเงินที่ได้ไปลดหนี้และวางแผนที่จะซื้อหุ้นในตลาดคืนบางส่วน
  • บริษัทร่วมทุนใหม่นี้จะมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในแถวหน้าของตลาดและผนึกอยู่ในห่วงโซ่ทางคุณค่าตั้งแต่นำวัตถุดิบเข้ามาจนถึงการผลิตออกมาเป็นสินค้าสำเร็จรูปอย่างบูรณาการ

แลนเซสส์ (LANXESS) จะโอนหน่วยธุรกิจ High Performance Materials (HPM) ให้กับบริษัทร่วมทุนใหม่
กรุงเทพมหานคร-วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2565แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษและ Advent International (“Advent”) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการลงทุนเอกชนรายใหญ่ที่สุดและมีประสบการณ์มากที่สุดในโลกที่มีประวัติการลงทุนในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์มาอย่างยาวนาน ประกาศร่วมกันตั้งบริษัทร่วมทุนด้านวัสดุโพลีเมอร์วิศวกรรมประสิทธิภาพสูง (High-Performance Engineering Polymers) โดยทั้งสองบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อธุรกิจ DSM Engineering Materials (DEM) จากกลุ่ม Royal DSM ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมทุนใหม่ ราคาซื้ออยู่ที่ประมาณ 3.7 พันล้านยูโรและจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินในการซื้อกิจการครั้งนี้จากการร่วมทุนผ่านหุ้นกับ Advent และหนี้ภายนอก ธุรกิจนี้มียอดขายประมาณ 1.5 พันล้านยูโรโดยมี EBITDA margin อยู่ที่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ DEM เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำระดับโลกในด้านวัสดุชนิดพิเศษที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งตอบสนองความต้องการของตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค

นอกจากนี้ แลนเซสส์จะโอนหน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง (High Performance Materials :HPM) ให้กับกิจการร่วมค้านี้ HPM เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโพลีเมอร์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหลัก หน่วยธุรกิจนี้มียอดขายทั้งปีประมาณ 1.5 พันล้านยูโร โดยมี EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติประมาณ 210 ล้านยูโร Advent จะถือครองหุ้นอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ในการร่วมทุน โดยแลนเซสส์จะได้รับการชำระเงินเบื้องต้นอย่างน้อย 1.1 พันล้านยูโรและถือหุ้นสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในการร่วมทุนนี้ ภายหลังการโอนไปยังกิจการร่วมค้า หน่วยธุรกิจ HPM จะไม่อยู่ร่วมในกลุ่มแลนเซสส์อีกต่อไป แต่จะแสดงร่วมอยู่ในงบการเงินรวมในส่วนของผู้ถือหุ้น

การเคลื่อนไหวครั้งจะนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจของแลนเซสส์ซึ่งจะประกอบด้วยกลุ่มเคมีภัณฑ์พิเศษสามกลุ่มที่เหลือเมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้นลง แลนเซสส์จะนำเงินที่ได้รับจากการทำธุรกรรมนี้เพื่อมาใช้ลดหนี้และเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล นอกจากนี้กลุ่มบริษัทมีแผนการจะซื้อคืนหุ้นในปริมาณสูงถึง 300 ล้านยูโร

แลนเซสส์อาจจะขายหุ้นในกิจการร่วมค้านี้ให้กับ Advent ด้วยการประเมินมูลค่าในราคาเดียวอย่างเร็วสุดหลังจากการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนี้ผ่านไปแล้วสามปี จะทำให้ EBITDA สูงขึ้นกว่าปัจจุบันนี้ เนื่องจาก Advent และแลนเซสส์คาดว่าการผนึกกำลังที้จะช่วยเสริมแรงกันให้ธุรกิจเข้มแข็งยิ่งขึ้นอันเป็นผลจากการรวมกันของทั้งสองธุรกิจ

การทำธุรกรรมยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากทางการ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566

Matthias Zachert ซีอีโอของแลนเซสส์ กล่าวว่า “ธุรกรรมนี้จะทำให้แลนเซสส์ได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจน้อยลงอย่างชัดเจนอีกครั้ง นอกจากนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุลของเราด้วยรายได้จากการทำธุรกรรมนี้ และช่วยการขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาธุรกิจของกลุ่มบริษัทต่อไป ด้วยการร่วมทุนครั้งใหม่นี้ เรากำลังสร้างผู้เล่นใหม่ที่แข็งแกร่งระดับโลกในด้านวัสดุโพลีเมอร์ประสิทธิภาพสูง ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ ห่วงโซ่คุณค่า และตำแหน่งระดับโลกของธุรกิจทั้งสองช่วยเสริมซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม การร่วมทุนจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดการพัฒนาในอนาคตของเรา - อย่างเช่นในด้านอุตสาหกรรมการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า Advent เป็นพันธมิตรของเราที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้เสมอมา พร้อมประสบการณ์ที่ลึกซึ้งในอุตสาหกรรมเคมีและอุตสาหกรรมต่างๆ ของลูกค้าของเรา”

Ronald Ayles ผู้จัดการด้านการบริหารจัดการพันธมิตรของ Advent International กล่าวว่า “การผนึกกำลังกับแลนเซสส์ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการพลิกโฉมของอุตสาหกรรมซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่สำคัญอย่างยิ่งของ Advent และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจได้อย่างยืนยาว และเพิ่มความเคารพสูงสุดต่อกันและกัน เราวางแผนที่จะนำประสบการณ์ องค์ความรู้ในเชิงลึก และทรัพยากรทางการเงินร่วมกัน เพื่อทำให้การร่วมทุนครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จระดับโลกกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การร่วมกันของหน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง (HPM) ของแลนเซสส์ และวัสดุวิศวกรรมของ DSM (DEM) ทำให้เกิดองค์กรธุรกิจใหม่ที่แข็งแกร่งและนำความเชี่ยวชาญที่กว้างขวางมารวมกัน ส่งผลให้เกิดโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับพนักงานและสร้างมูลค่าเพิ่มที่มากขึ้นสำหรับลูกค้า”

การรวมตัวกันทั่วโลกของสองหน่วยธุรกิจนี้มีการบูรณาการย้อนกลับไปจนถึงอุตสาหกรรมต้นน้ำ

หน่วยธุรกิจวัสดุทางวิศวกรรมของ DSM ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์วัสดุโพลีเอไมด์ (PA6, PA66) รวมถึงวัสดุพิเศษต่างๆ (PA46, PA410 และโพลีเอสเตอร์พิเศษตลอดจน PPS) โดยมีพนักงานประมาณ 2,100 คนทำงานในแผนกนี้ในโรงงานผลิต 8 แห่งและศูนย์วิจัย 7 แห่งในตลาดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั่วโลก หน่วยธุรกิจนี้ยังมีสถานะที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษในภูมิภาคเอเชีย นอกเหนือไปจากในภูมิภาคยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว

หน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง (HPM) ของแลนเซสส์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำด้านวัสดุวิศวกรรมโพลีเมอร์ PA6 และ PBT และคอมโพสิตไฟเบอร์เทอร์โมพลาสติก มีพนักงาน 1,900 คนในโรงงานผลิต 10 แห่งและศูนย์วิจัย 7 แห่งทั่วโลกทำงานให้กับ HPM เครือข่ายการผลิตทั่วโลกมีลักษณะการรวมตัวย้อนกลับไปจนถึงอุตสาหกรรมต้นน้ำ (Backward Integration) ในระดับสูง โดยมีหน่วยงานหลักที่เป็นกระดูกสันหลังคือโรงงานที่เมือง Antwerp / Belgium ที่นั่น HPM ไม่เพียงผลิตโพลีเมอร์ PA6 เท่านั้น แต่ยังผลิตสารตั้งต้นที่เกี่ยวข้อง เช่น คาโปรแลคตัมและเส้นใยแก้ว

กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อม

ทั้ง DEM และ HPM เป็นผู้บุกเบิกด้านความยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อม โดยนำเสนอทางเลือกชีวภาพและวัสดุรีไซเคิลในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็วๆ นี้แลนเซสส์ได้เปิดตัววัสดุพอลิเมอร์ประสิทธิภาพสูงตัวใหม่ซึ่งทำจากวัตถุดิบที่ยั่งยืน 92 เปอร์เซ็นต์ ในการผลิตโพลีเมอร์ นี้แลนเซสส์ใช้ไซโคลเฮกเซน "สีเขียว" (Green Cyclohexane) จากแหล่งที่ยั่งยืน เช่น น้ำมันเรพซีด (Rapeseed Oil) หรือชีวมวลอื่นๆ เป็นวัตถุดิบ เสริมด้วยวัสดุใยแก้วที่มีส่วนผสมตามน้ำหนัก 60 เปอร์เซ็นต์มาจากวัสดุรีไซเคิลจากเศษแก้วอุตสาหกรรม

มุ่งสู่ตลาดแห่งอนาคต

อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำหรับการร่วมทุนใหม่นี้ มีการใช้โพลีเมอร์สำหรับองค์ประกอบน้ำหนักเบาในชิ้นส่วนโครงสร้าง แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบสำหรับการตกแต่งภายในและมักจะใช้ทดแทนชิ้นส่วนเดิมที่เป็นโลหะอีกด้วย ด้วยแนวทางนี้จึงสามารถลดน้ำหนักและลดการปล่อย CO2 ได้ พื้นที่การเติบโตที่สำคัญคือการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (Electromobility) โอยอุตสาหกรรมนี้ใช้โพลีเมอร์ เช่น ในการทำแบตเตอรี่และระบบชาร์จ ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลัง

นอกจากนี้ วัสดุดังกล่าวยังใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย เช่น ในส่วนประกอบสำหรับสมาร์ทโฟน อุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้ในครัวเรือน

สำนักงานใหญ่ของแลนเซสส์ (LANXESS) ในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี

แลนเซสส์ (LANXESS) เป็นบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) มียอดรายได้รวม 7.6 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2564 และมีพนักงาน 14,900 คนอยู่ใน 33 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจหลักของแลนเซสส์ คือการพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต (Chemical Intermediates) เคมีภัณฑ์เติมแต่ง (Additives Chemicals) ผลิตภัณฑ์สารเคมีชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) และพลาสติก แลนเซสส์เป็นบริษัทที่อยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ที่ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI World) และ FTSE4Good ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lanxess.com


ไม่มีความคิดเห็น