อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 12 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 107,271,904 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,522 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 826.8 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120.6%)

➡️(12 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,522 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 37.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 520 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 208 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 828.8 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 290.5 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 12 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 107,271,904 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.62%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,522 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 12 มกราคม 2565
    จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 107,271,904 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
        - เข็มแรก 51,592,872โดส (78% ของประชากร)
        - เข็มสอง 47,056,159โดส (71.1% ของประชากร)
        - เข็มสาม 8,622,873 โดส (13% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-12 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 107,271,904 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 513,208 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 389,579 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
    วัคซีน Sinovac
        - เข็มที่ 1 22,832,384 โดส
        - เข็มที่ 2 3,577,056 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน AstraZeneca
        - เข็มที่ 1 13,516,210 โดส
        - เข็มที่ 2 27,980,629 โดส
        - เข็มที่ 3 3,120,842 โดส
    วัคซีน Sinopharm
        - เข็มที่ 1 7,469,445 โดส
        - เข็มที่ 2 7,140,170 โดส
        - เข็มที่ 3 0 โดส
    วัคซีน Pfizer
        - เข็มที่ 1 7,157,423 โดส
        - เข็มที่ 2 7,762,588 โดส
        - เข็มที่ 3 4,118,863 โดส
    วัคซีน Moderna
        - เข็มที่ 1 617,410 โดส
        - เข็มที่ 2 595,716 โดส
        - เข็มที่ 3 1,383,168 โดส

4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
     - บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.7% เข็มที่2 119.1% เข็มที่3 100.4%
     - อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 76.3% เข็มที่3 26.9%
     - ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 78.1% เข็มที่2 72.9% เข็มที่3 13.1%
     - ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.6% เข็มที่3 61.9% เข็มที่3 11.8%
     - ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.8% เข็มที่2 69% เข็มที่3 9.9%
     - นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 75% เข็มที่2 71.8% เข็มที่3 0%
     รวม เข็มที่1 71.6% เข็มที่2 65.3% เข็มที่3 12%

5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
     1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120.6% เข็มที่2 111.6%
     2. ชลบุรี เข็มที่1 93.8% เข็มที่2 88.7%
     3. สมุทรสาคร เข็มที่1 95% เข็มที่2 85.9%
     4. เชียงใหม่ เข็มที่1 90.1% เข็มที่2 85.6%
     5. ภูเก็ต เข็มที่1 87.7% เข็มที่2 85.4%
     6. ปทุมธานี เข็มที่1 84.3% เข็มที่2 79.2%
     7. ระนอง เข็มที่1 83% เข็มที่2 76.9%
     8. ระยอง เข็มที่1 78.4% เข็มที่2 74.5%
     9. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 87.7% เข็มที่2 74.3%
     10. พังงา เข็มที่1 74.8% เข็มที่2 73%
    10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
     1. หนองบัวลำภู เข็มที่1 51.8% เข็มที่2 42.2%
     2. ปัตตานี เข็มที่1 53.7% เข็มที่2 42.9%
     3. นราธิวาส เข็มที่1 53.5% เข็มที่2 43.1%
     4. บึงกาฬ เข็มที่1 54.3% เข็มที่2 43.5%
     5. สกลนคร เข็มที่1 55.2% เข็มที่2 45.6%
     6. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 64.7% เข็มที่2 45.7%
     7. สุรินทร์ เข็มที่1 52.1% เข็มที่2 47%
     8. นครพนม เข็มที่1 55.6% เข็มที่2 47.5%
     9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 54.5% เข็มที่2 47.5%
     10. ศรีสะเกษ เข็มที่1 54.6% เข็มที่2 47.7%

6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 826,892,625 โดส ได้แก่
     1. อินโดนีเซีย จำนวน 290,531,811 โดส (62.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
     2. เวียดนาม จำนวน 162,375,421 โดส (80.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
     3. ฟิลิปปินส์ 115,303,412 โดส (52.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
     4. ไทย จำนวน 107,271,904 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
     5. มาเลเซีย จำนวน 59,711,359 โดส (79.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
     6. พม่า จำนวน 38,156,041 โดส (38.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
     7. กัมพูชา จำนวน 32,138,844 โดส (84.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
     8. สิงคโปร์ จำนวน 12,132,375 โดส (89%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
     9. ลาว จำนวน 8,373,057 โดส (62.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
     10. บรูไน จำนวน 898,401 โดส (94.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
     1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.66%
     2. ยุโรป 10.39%
     3. อเมริกาเหนือ 8.87%
     4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.01%
     5. แอฟริกา 3.48%
     6. โอเชียเนีย 0.58%

8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
     1. จีน จำนวน 2,899.56 ล้านโดส (207.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
     2. อินเดีย จำนวน 1,529.1 ล้านโดส (111.8%)
     3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 519.34 ล้านโดส (156.4%)
     4. บราซิล จำนวน 335.74ล้านโดส (159.8%)
     5. อินโดนีเซีย จำนวน 288.39 ล้านโดส (104.5%)

9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
     1. คิวบา (279.6%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
     2. ชิลี (236.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
     3. เดนมาร์ก (225.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
     4. บาห์เรน (221%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
     5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (213.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
     6. มัลดีฟส์ (213.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
     7. เกาหลีใต้ (210.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
     8. จีน (207.5%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
     9. บรูไน (203.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
     10. สหราชอาณาจักร (202.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)