เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท โชว์ฟอร์มแกร่งทุบสถิติทำกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ครั้งแรก รายงานกำไรรอบครึ่งปีแรกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมเคาะเงินปันผลระหว่างกาลครั้งแรก 0.015 บาทต่อหุ้น
![]() |
นาย ไมเคิล เดวิท มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร |
นาย ไมเคิล เดวิท มาร์แชล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการประกอบธุรกิจโรงแรมและบริการ ในไตรมาส 2 ของปี 2568 รวมจำนวน 2,401 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารายได้จากโรงแรมในต่างประเทศของบริษัทฯ จะได้รับผลกระทบเชิงลบจากการแข็งค่าของเงินบาท และการปิดปรับปรุงโรงแรมในสหราชอาณาจักรเพื่อเปลี่ยนแบรนด์ แต่โรงแรมในประเทศไทยมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น มีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็น 24% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะโรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต ที่มีการเติบโตอย่างน่าพอใจถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว โดยในไตรมาส 2 นี้ สามารถทำระดับอัตราค่าห้องพัก (ADR) ได้กว่า 6,800 บาทต่อคืน ปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 34% เป็นผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง หรือ RevPAR เพิ่มสูงขึ้นกว่า 2 เท่าตัว ด้านโรงแรม Mount Royal Hotel Edinburgh by The Unlimited Collection ก็แสดงผลงานในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวแรกภายหลังจากการยกระดับแบรนด์ด้วย RevPAR ของไตรมาส 2 ของปี 2568 ที่เติบโตขึ้นถึง 10% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน”
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทฯ บรรลุข้อตกลงการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยของบริษัทร่วมค้า ของ 3 โรงแรม ในสหราชอาณาจักร ตามกลยุทธ์หมุนเวียนสินทรัพย์ (Asset Rotation) ได้แก่ โรงแรม Mercure Sheffield Parkway โรงแรม Holiday Inn Darlington North และ โรงแรม Holiday Inn Dumfries ด้วยมูลค่า 12.5 ล้านปอนด์ โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ของบริษัทร่วมค้าในครั้งนี้ หลังจากนำไปใช้ในการชำระคืนหนี้ จะส่งกลับมายังผู้ถือหุ้นซึ่งรวมถึงบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในรูปของเงินปันผลและเงินคืนทุน และไม่เพียงเท่านี้ บริษัทฯ ยังดำเนินการรีไฟแนนซ์เงินกู้ในสหราชอาณาจักร โดยสามารถลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ถึง 2-3% ต่อปี ซึ่งจะช่วยลดภาระทางการเงิน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพการลงทุนในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2568 บริษัทฯ รายงานรายได้จากการประกอบธุรกิจโรงแรมและบริการรวมจำนวน 5,023 ล้านบาท ชะลอตัวลง 4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 1,324 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 2% จากการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง และความสามารถในการรีไฟแนนซ์เงินกู้จากแหล่งเงินกู้ต้นทุนสูงไปยังแหล่งเงินกู้ที่มีต้นทุนต่ำ ทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลักดันให้กำไรสุทธิประจำครึ่งปีแรกของปี 2568 เติบโตขึ้นเกือบ 4 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 200 ล้านบาท สะท้อนสัญญาณเติบโตที่ดี
สำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานยังคงเติบโตตามเป้า โดยปัจจัยหนุนหลักยังคงมาจากผลประกอบการของโรงแรมในไทยจากความสามารถในการปรับอัตราห้องพักและกลุ่มโรงแรมในประเทศมัลดีฟส์ที่เติบโตขึ้นสอดคล้องกับสถาณการณ์การท่องเที่ยวของประเทศ ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“นอกจากการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องแล้ว ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้นำ 4 โรงแรมในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ SAii Hotels & Resorts และสันติบุรี เข้าร่วมโปรแกรมสะสมสิทธิประโยชน์ GHA DISCOVERY ภายใต้ชื่อ SAii DISCOVERY ซึ่งจัดโดย Global Hotel Alliance (GHA) ที่มีสมาชิกมากกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก
การเข้าร่วมโปรแกรมนี้เปิดโอกาสให้ SHR เติบโตในหลายมิติ ทั้งการเพิ่มยอดจองตรง การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า และการขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวอย่างรวดเร็ว และช่วยให้ทีมงานสามารถพัฒนาบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังคาดว่าจะได้รับประโยชน์ทางอ้อมจากพฤติกรรมการเข้าพักข้ามแบรนด์
การเข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นการมุ่งเน้นสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ยังช่วยลดภาระด้านต้นทุนในการพัฒนาและดูแลระบบอีกด้วย ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยยกระดับผลการดำเนินงานของบริษัทในระยะยาว” นายไมเคิล เดวิท มาร์แชล กล่าวเสริม
ไม่มีความคิดเห็น